เมนู

อิติวุตตกะ ติกนิบาต วรรคที่ 3


1. มิจฉาทิฏฐิสูตร


ว่าด้วยผู้เป็นมิจฉาทิฏฐิเข้าถึงนรก


[248] จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว พระสูตร
นี้พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้า
ได้สดับมาแล้วว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราตถาคตได้เห็นสัตว์ผู้ประกอบด้วย
กายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต ติเตียนพระอริยเจ้า เป็นมิจฉาทิฏฐิ ยึดมั่น
การกระทำด้วยอำนาจมิจฉาทิฏฐิ เมื่อตายไป เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราตถาคตกล่าวคำนั้นแลว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราได้
เห็นสัตว์ผู้ประกอบด้วยกายทุจริต...เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เพราะ
ได้ฟังต่อสมณะหรือพราหมณ์อื่นก็หามิได้ ก็แต่ว่า เราตถาคตรู้มาเอง เห็น
มาเอง ทราบมาเอง จึงกล่าวคำนั้นแลว่า เราตถาคตเห็นสัตว์ผู้ประกอบด้วย
กายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต ติเตียนพระอริยเจ้า เป็นมิจฉาทิฏฐิ ยึดมั่น
การกระทำด้วยอำนาจมิจฉาทิฏฐิ เมื่อตายไป เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต
นรก.
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว ในพระสูตรนั้น พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสคาถาประพันธ์ดังนี้ว่า
บุคคลในโลกนี้ ตั้งใจไว้ผิด กล่าว
วาจาผิด กระทำการงานผิดด้วยกาย ผู้มี
การสดับน้อย ทำกรรมอันไม่เป็นบุญไว้

ในชีวิตอันมีประมาณน้อย ในมนุษยโลกนี้
เขาผู้มีปัญญาทราม เมื่อตายไป ย่อมเข้า
ถึงนรก.

เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้า
ได้สดับมาแล้ว ฉะนี้แล.
จบมิจฉาทิฏฐิสูตรที่ 1

วรรควรรณนาที่ 3


อรรถกถามิจฉาทิฏฐิสูตร


ในมิจฉาทิฏฐิสูตรที่ 1 แห่งวรรคที่ 3 พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
บทว่า ทิฏฐา มยา ความว่า สัตว์ทั้งหลายอันเราตถาคตเห็นแล้ว
คือ อันเราตถาคตเห็นแล้ว ได้แก่รู้ประจักษ์แล้ว ด้วยสมันตจักษุ และทิพย-
จักษุ. ด้วยคำว่า ทิฏฺฐา มยา นั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงคัดค้านการ
ได้ฟังตาม ๆ กันมาเป็นต้น และความข้อนี้จักมีมาในพระบาลี ในบัดนี้แหละ.
บทว่า กายทุจฺจริเตน สมนฺ นาคตา ความว่า เป็นผู้พรั่งพร้อมด้วย
กายทุจริต. บทว่า อริยานํ อุปวาทกา ความว่า เป็นผู้ว่าร้ายคือด่า ได้แก่
ติเตียนพระอริยะทั้งหลาย มีพระพุทธเจ้าเป็นต้น โดยที่สุดแม้พระโสดาบัน
ผู้เป็นคฤหัสถ์ โดยการกล่าวตู่ที่ไม่เป็นจริง อันเป็นเหตุกำจัดคุณความดี
(ของท่าน). บทว่า มิจฺฉาทิฏฺฐิกา ได้แก่ ผู้มีความเห็นผิด. บทว่า มิจฺฉา-
ทิฏฺฐิกมฺมสมาทานา
ความว่า ผู้ได้สมาทานกรรมนานาชนิด เหตุที่มีความ