เมนู

พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว ในพระสูตรนั้น พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสคาถาประพันธ์ดังนี้ว่า
พระอริยเจ้าทั้งหลาย มีพระพุทธเจ้า
เป็นต้น ได้กล่าวบุคคลผู้รู้ทางกาย ผู้รู้
ทางวาจา ผู้รู้ทางใจ ผู้หาอาสวะมิได้ว่า
เป็นมุนี ผู้ถึงพร้อมด้วยความเป็นมุนี มี
บาปอันล้างแล้ว.

เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพ-
เจ้าได้สดับมาแล้ว ฉะนี้แล.
จบมุนีสูตรที่ 8

อรรถกถามุนีสูตร


ในมุนีสูตรที่ 8 พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
ในบทว่า โมเนยฺยานิ นี้ บุคคลชื่อว่า มุนิ เพราะรู้ทั้งโลกนี้และ
โลกหน้า และทั้งประโยชน์ตนประโยชน์ผู้อื่น ได้แก่ พระเสกขะบุคคล 7 จำพวก
พร้อมด้วยกัลยาณปุถุชน และพระอรหันต์. แต่ในที่นี้ทรงประสงค์เอาพระ-
อรหันต์เท่านั้น. ความเป็นแห่งมุนี เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า โมเนยยะ ได้แก่
กายสมาจาร วจีสมาจาร และมโนสมาจารของพระอรหันต์. อีกอย่างหนึ่ง
ธรรมคือ โมเนยยปฏิปทา ที่ทำให้เป็นมุนี ชื่อว่า โมเนยยะ.
โมเนยยะเหล่านั้น มีความพิสดารดังต่อไปนี้ บรรดาโมเนยยะทั้ง 3 นั้น
กายโมเนยยะเป็นอย่างไร ? คือการละกายทุจริต 3 อย่าง ชื่อว่า กายโมนยยะ

กายสุจริต 3 อย่าง ชื่อว่า กายโมเนยยะ ญาณในธรรมที่มีกายเป็นอารมณ์
ชื่อว่า กายโมเนยยะ การกำหนดรู้กาย ชื่อว่า กายโมเนยยะ มรรคที่สหรคต
ด้วยการกำหนดรู้กาย ชื่อว่า กายโมเนยยะ การละฉันทราคะในกาย ชื่อว่า
กายโมเนยะ การเข้าจตุตถฌาน มีการดับกายสังขาร ชื่อว่า กายโมเนยยะ.
บรรดาโมเนยยะทั้ง 3 นั้น วจีโมเนยยะ เป็นอย่างไร คือการละวจีทุจริต
4 อย่าง ชื่อว่า วจีโมเนยยะ วจีสุจริต 4 อย่าง ชื่อว่า วจีโมเนยยะ
ญาณในธรรมมีวาจาเป็นอารมณ์ ชื่อว่า วจีโมเนยยะ การกำหนดรู้วาจา ชื่อว่า
วจีโมเนยยะ มรรคที่สหรคตด้วยการกำหนดรู้วาจา ชื่อว่า วจีโมเนยยะ
การละฉันทราคะในวาจา ชื่อว่า วจีโมเนยยะ การเข้าทุติยฌาน มีการดับ
วจีสังขาร ชื่อว่า วจีโมเนยยะ. บรรดาโมเนยยะทั้ง 3 อย่างนั้นมโนโมเนยยะ
เป็นอย่างไร ? คือการละมโนทุจริต 3 อย่าง ชื่อว่า มโนโมเนยยะ มโนสุจริต
3 อย่าง ชื่อว่า มโนโมเนยยะ ญาณในธรรมมีใจเป็นอารมณ์ ชื่อว่า
มโนโมเนยยะ การกำหนดรู้ใจ ชื่อว่า มโนโมเนยยะ มรรคที่สหรคต
ด้วยการกำหนดรู้ใจ ชื่อว่า นโนโมเนยยะ การละฉันทราคะในใจ ชื่อว่า
มโนโมเนยยะ การเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธ มีการดับจิตสังขาร ชื่อว่า
มโนโมเนยยะ แล.
บทว่า นินฺหาตปาปกํ ความว่า ผู้มีมลทินคือบาปอันล้างดีแล้วด้วย
น้ำอันเลิศ คืออัษฎางคิกมรรค.
จบอรรถกถามุนีสูตรที่* 8

* ม. โมเนยยสูตร

9. ปฐมราคสูตร


ว่าด้วยผู้ถูกมารผูกไว้


[246] จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว พระสูตรนี้
พระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นพระอรหันต์ตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้
สดับมาแล้วว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ราคะ โทสะ โมหะ บุคคลผู้ใดผู้หนึ่งยัง
ละไม่ได้แล้ว บุคคลผู้นี้เรากล่าวว่า เป็นผู้อันมารผูกไว้แล้ว สวมบ่วงแล้ว
และถูกมารผู้มีบาปพึงกระทำได้ตามความพอใจ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ราคะ
โทสะ โมหะ บุคคลผู้ใดผู้หนึ่งละได้แล้ว บุคคลผู้นี้เรากล่าวว่า มารผูกไม่ได้
สวมบ่วงไม่ได้ และมารผู้มีบาปกระทำตามความพอใจไม่ได้.
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว ในพระสูตรนั้น พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสคาถาประพันธ์ดังนี้ว่า
พระอริยเจ้าทั้งหลายมีพระพุทธเจ้า
เป็นต้น ได้กล่าวบุคคลผู้สำรอกราคะ
โทสะ โมหะ และอวิชชาได้แล้ว ผู้มีตน
อันอบรมแล้วผู้ใดผู้หนึ่ง ว่าเป็นผู้ประเสริฐ
ผู้ไปแล้วอย่างนั้น ผู้ตรัสรู้แล้ว ผู้ล่วงเวร
และภัย ผู้ละกิเลสทั้งปวงเสียได้.

เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้า
ได้สดับมาแล้ว ฉะนี้แล.
จบปฐมราคสูตรที่ 9