เมนู

อรรถกถาทุจริตสูตร


ในทุจริตสูตรที่ 5 พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
การประพฤติชั่ว หรือการประพฤติสิ่งเลวร้าย ชื่อว่าทุจริต. การ-
ประพฤติชั่วด้วยกายหรือการประพฤติชั่วที่เป็นไปแล้วทางกาย ชื่อว่ากายทุจริต.
แม้ในบททั้งหลายที่เหลือ ก็มีนัยนี้เหมือนกัน.
ก็ทุจริตเหล่านี้ ควรจะกล่าวตามบัญญัติบ้าง กล่าวตามกรรมบถบ้าง.
บรรดาทั้งสองอย่างนั้น จะกล่าวตามบัญญัติก่อน การละเมิดสิกขาบทที่ทรง
บัญญัติไว้ ทางกายทวาร เป็นกายทุจริต การละเมิดสิกขาบทที่ทรงบัญญัติไว้
แล้ว ทางวจีทวาร เป็นวจีทุจริต การละเมิดสิกขาบทที่ทรงบัญญัติไว้ทั้ง 2 ทาง
เป็นมโนทุจริต นี้แล คือการกล่าวตามบัญญัติ. ส่วนเจตนา 3 มีปาณาติบาต
เป็นต้น ที่เกิดขึ้นทั้งทางกายทวาร ทั้งทางวจีทวาร ชื่อว่าเป็นกายทุจริต.
เจตนาทั้ง 4 มีมุสาวาทเป็นต้น ก็เช่นนั้น (ที่เกิดในทางกายทวารและวจีทวาร)
ชื่อว่าเป็นวจีทุจริต ธรรมที่ประกอบด้วยเจตนา 3 อย่าง คือ อภิชฌา พยาบาท
มิจฉาทิฏฐิ ชื่อว่าเป็นมโนทุจริต นี้แลคือการกล่าวตามกรรมบถ.
พึงทราบวินิจฉัยในคาถาทั้งหลายต่อไปนี้ บาปธรรม ที่ถึงกรรมบถ
นั่นแหละ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้โดยความเป็นกายทุจริตเป็นต้น เพราะ
ฉะนั้น เพื่อจะทรงสงเคราะห์เอาบาปธรรมอย่างอื่นนั้นเข้าด้วย พระองค์จึง
ตรัสว่า อญฺจญฺญํ โทสสณฺหิตํ ดังนี้.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า โทสสณฺหิตํ ได้แก่ ประกอบด้วยกิเลส
มีราคะเป็นต้น. คำที่เหลือ เข้าใจได้ง่ายทั้งนั้น.
จบอรรถกถาทุจริตสูตรที่ 5