เมนู

6. ทุติยเอสนาสูตร


ว่าด้วยที่ตั้งแห่งทิฏฐิ


[233] จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว พระสูตรนี้
พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้
สดับมาแล้วว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การแสวงหา 3 ประการนี้ 3 ประการ
เป็นไฉน ? คือ การแสวงหากาม 1 การแสวงหาภพ 1 การแสวงหาพรหม-
จรรย์ 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การแสวงหา 3 ประการนี้แล.
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว ในพระสูตรนั้น พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสคาถาประพันธ์ดังนี้ว่า
การแสวงหากาม การแสวงหาภพ
กับการแสวงหาพรหมจรรย์ การยึดมั่นว่า
จริงดังนี้ เป็นที่ตั้งแห่งทิฏฐิที่เกิดขึ้น การ
แสวงหาทั้งหลาย อันเป็นที่ตั้งแห่งทิฏฐิ
พระอรหันต์ผู้ไม่ยินดีแล้วด้วยความยินดี
ทั้งปวง ผู้น้อมไปในธรรมเป็นที่สิ้นตัณหา
สละคืนเสียแล้ว ถอนขึ้นได้แล้ว ภิกษุ
เป็นผู้ไม่มีความหวัง ไม่มีความสงสัย
เพราะความสิ้นไปแห่งการแสวงหาทั้ง-
หลาย.

เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้า
ได้สดับมาแล้ว ฉะนี้แล.
จบทุติยเอสนาสูตรที่ 6

อรรถกถาทุติยเอสนาสูตร


ในทุติยเอสนาสูตรที่ 6 พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
บทว่า พฺรหฺมจริเยสนา สห ความว่า พร้อมกับด้วยการแสวงหา
พรหมจรรย์. ก็ด้วยการลบวิภัตติออกเสีย ศัพท์ว่า พฺรหฺมจริเยสนา นี้
จึงเป็นศัพท์นิเทศ อีกอย่างหนึ่ง บทว่า พฺรหฺมจริยเอสนา นี้ เป็นปฐมาวิภัตติ
(แต่) ลงในอรรถแห่งตติยาวิภัตติ มีคำอธิบายดังต่อไปนี้ กามเอสนา ภวเอสนา
รวมกับ พรหมจริยเอสนา จึงเป็นเอสนา 3 อย่าง. ในบรรดาเอสนาเหล่านั้น
เพื่อจะทรงแสดงพรหมจริยเอสนาโดยสรุป พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสคำนี้ไว้ว่า
อิติ สจฺจปรานาโส ทิฏฺฐิฏฐานา สมุสฺสยา การยึดมั่นว่าจริง ดังนี้
เป็นที่ตั้งแห่งทิฏฐิที่เกิดขึ้น ดังนี้ .
คำนั้นมีอธิบายดังนี้ การยึดมั่นว่า สิ่งนี้เป็นจริงอย่างนี้ ด้วยประการ
อย่างนี้ ชื่อว่า อิตสจฺจปรามาโส. พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงแสดงอาการ
คือ ความเป็นไปแห่งทิฏฐิไว้ว่า "สิ่งนี้เท่านั้นจริง สิ่งอื่นเป็นโมฆะ" ทิฏฐิ
นั่นแหละ ชื่อว่า ทิฏฺฐิฏฐานา เพราะเป็นเหตุแห่งอนัตถะทุกอย่าง สมดังที่
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราตถาคตกล่าวโทษที่จะ
พึงตำหนิว่า มีมิจฉาทิฏฐิเป็นอย่างยิ่งดังนี้ และมีคำอธิบายว่า มิจฉาทิฏฐิ
เหล่านั้นแหละ ทั้งที่เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป ทั้งเป็นที่เกิดขึ้น โดยเป็นที่เกิดแห่ง
กิเลส มีโลภะเป็นต้น ทิฏฐิทั้งหลายที่ยึดมั่นผิด ๆ ว่า สิ่งนี้เท่านั้นจริง สิ่งอื่น
เป็นโมฆะ ดังนี้ เป็นทั้งเหตุแห่งอนัตถะทุกอย่าง เป็นทั้งเหตุแห่งการก่อทุกข์
คือกิเลส จึงชื่อว่า พฺรหฺมจริยเอสนา. ด้วยบทแห่งพระคาถาว่า อิติสจฺจ-
ปรามาโส ทิฏฺฐฐฏฺฐานา สมุสฺสยา
นี้ พึงทราบว่า เป็นอันพระองค์