เมนู

อรรถกถาสัมปชานมุสาวาทสูตร


ในสัมปชานมุสาวาทสูตรที่ 5 พึงทราบวินิจฉัย ดังต่อไปนี้ :-
อะไรเป็นเหตุให้เกิด บทว่า เอกธมฺมํ อตีตสฺส. เรื่องมีอยู่ว่า
ลาภสักการะเป็นอันมากเกิดแก่พระผู้มีพระภาคเจ้า และภิกษุสงฆ์ เสื่อมจาก
พวกเดียรถีย์. พวกเดียรถีย์เมื่อเสื่อมจากลาภสักการะก็อับเฉา หมดฤทธิ์เดช
เกิดริษยา จึงพากัน ไปชักชวนปริพาชิกา ชื่อจิญจมาณวิกาว่า นี่แน่น้องสาว
เธอจงกล่าวผู้มีพระสมณโคดม ด้วยคำไม่จริงทีเถิด. นางจิญจมาณวิกา ก็เข้า
ไปหาพระผู้มีพระภาคเจ้าซึ่งกำลังทรงแสดงธรรมในท่ามกลางบริษัท ได้กล่าวตู่
ด้วยคำไม่จริง ท้าวสักกะได้ประกาศความไม่จริงของนาง ในท่ามกลางบริษัท
มหาชนพากันแช่งด่าว่า อีหญิงกาลกิณี แล้วฉุดกระชากออกจากวิหาร
แผ่นดินได้แยกออกเป็นช่อง นางจิญจมาณวิกา เป็นดุจฟืนติดเปลวไฟนรกไป
บังเกิดในอเวจีมหานรก พวกเดียรถีย์ยิ่งเส อมจากลาภสักการะมากขึ้น.
ภิกษุทั้งหลายประชุมสนทนากันในโรงธรรมว่า อาวุโสทั้งหลาย นาง
จิญจมาณวิกาด่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นทักษิไณยบุคคลผู้เลิศ ทรงคุณยิ่ง
ด้วยคำไม่จริง ได้ถึงความพินาศยิ่งใหญ่ ดังนี้. พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอาศัย
เหตุนั้น จึงตรัสมหาปทุมชาดกว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นางจิญจมาณวิกาได้
ด่าเราด้วยคำไม่จริง แล้วถึงความพินาศยิ่งใหญ่ มิใช่ในบัดนี้เท่านั้น แม้เมื่อ
ก่อนก็เหมือนกัน เมื่อจะทรงแสดงธรรมให้ยิ่งขึ้นไป จงตรัสพระสูตรนี้ด้วย
บทว่า เอกธมฺมมตีตสฺส ดังนี้ เพื่อให้เรื่องนี้เกิดขึ้น.
ในบทเหล่านั้น บทว่า เอกธมฺมํ ได้แก่ ธรรมคือวจีสัจอย่างหนึ่ง.
บทว่า อตีตสฺส ความว่า เมื่อบุคคลล่วงเลยมารยาท อันพระอริยะทั้งหลาย