เมนู

พระสุตตันตปิฎก


ขุททกนิกาย อิติวุตตกะ


เล่มที่ 1 ภาคที่ 4


ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น



เอกนิบาต


ปาฏิโภควรรคที่ 1



1. โลภสูตร


ว่าด้วยละโลภะได้เป็นพระอนาคามี


[179] จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว พระสูตรนี้
พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับ
มาแล้วว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่งได้ เราเป็นผู้
รับรองเธอทั้งหลาย เพื่อความเป็นพระอนาคามี ธรรมอย่างหนึ่งเป็นไฉน
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่ง คือ โลภะได้ เราเป็น
ผู้รับรองเธอทั้งหลายเพื่อความเป็นพระอนาคามี.

ชนผู้เห็นแจ้งทั้งหลาย รู้ชัดด้วยดี
ซึ่งความโลภอันเป็นเหตุให้สัตว์ผู้โลภไปสู่
ทุคติ แล้วละได้ ครั้นละได้แล้ว ย่อม
ไม่มาสู่โลกนี้อีกในกาลไหน ๆ.

เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้า
ได้สดับมาแล้วฉะนี้แล.
จบโลภสูตรที่ 1

อรรถกถาขุททกนิกาย ชื่อปรมัตถทีปนี


อิติวุตตกวรณนา



อารัมภกถา


ข้าพเจ้าขอวันทาพระผู้มีพระภาคเจ้า
ผู้ทรงเป็นนาถะ ผู้มีพระทัยเปี่ยมล้นไป
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ เสด็จถึงฝั่งสาคร
คือไญยธรรมได้แล้ว ทรงมีนัยเทศนาอัน
วิจิตรสุขุมคัมภีรภาพ.
ข้าพเจ้าขอวันทาพระธรรมนั้น อัน
อุดมที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรง-
บูชา ที่นำพาพระอริยสาวกทั้งหลายผู้
สมบูรณ์ด้วยวิชชาและจรณะให้พ้นไปจาก
โลก.
ข้าพเจ้าขอวันทาพระสงฆ์ ผู้เป็น
พระอริยะนั้น สถิตมั่นอยู่ในมรรคและผล
สมบูรณ์แล้วด้วยศีลาทิคุณเป็นนาบุญอย่าง
เยี่ยมยอด.
ด้วยเดชานุภาพแห่งบุญที่เกิดจากการ
วันทาพระรัตนตรัยดังได้พรรณนามานี้

ขอข้าพเจ้าจงปลอดภัยจากอันตรายในที่ทุก
สถาน ในกาลทุกเมื่อเทอญ. พระธรรม
สังคาหกเถระทั้งหลายผู้จำพรรษาอยู่ในบุรี
มีปกติแสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่ ได้รวบรวม
พระสูตรทั้งหลายที่พระผู้แสวงหาคุณธรรม
อันยิ่งใหญ่ได้ทรงแสดงไว้แล้ว โดยแยก
เป็นนิบาต มีเอกนิบาตเป็นอาทิอันส่อง
แสดงถึงการละซึ่งกิเลสทั้งหลายมีโลภะ
เป็นต้น ไว้อย่างวิเศษเข้าเป็นสายเดียวกัน
แล้วร้อยกรองบทอักษรดังกล่าวมานี้ โดย
เรียกชื่อว่า "อิติวุตตกะ" อันที่จริง การ
แต่งอรรถกถาพรรณนาความลำดับบทที่มี
อรรถอันลึกซึ้ง ในขุททกนิกายเป็นสิ่งที่
ข้าพเจ้าทำได้ยาก เพราะเป็นอรรถที่จะพึง
หยั่งถึงได้ก็ด้วยคัมภีรญาณ แต่เพราะเหตุ
ที่อรรถกถาจะช่วยทรงศาสนาของพระ-
ศาสดาไว้ได้ ทั้งวินิจฉัยของบรรดา
บุรพาจารย์ผู้เปรียบปานด้วยราชสีห์ก็จะยัง
คงดำรงอยู่ด้วย ฉะนั้น ข้าพเจ้าจักแต่ง
อรรถกถา "อิติวุตตกะ" ไว้ให้ดีตามกำลัง
โดยจะยึดวินิจฉัยของบรรดาบุรพาจารย์นั้น
เป็นหลัก ถือนิกาย 5 เป็นเกณฑ์ อิงอาศัย
นัยจากอรรถกถาเก่า แม้จะเป็นเพียงคำ

บอกกล่าวของนิสิต แต่ก็บริสุทธิ์ ไม่
คลาดเคลื่อน เป็นการวินิจฉัยอรรถที่
ละเอียดของบรรดาบุรพาจารย์คณะมหา-
วิหารแล้วเว้นความที่ซ้ำ ๆ กันเสีย.
สาธุชนทั้งหลาย ขอท่านทั้งหลาย
ได้โปรดตั้งใจสดับการพรรณนาความแห่ง
อรรถกถา "อิติวุตตกะ" นั้น ของข้าพเจ้า
ผู้หวังให้พระสัทธรรมดำรงมั่นอยู่ได้นาน
จะได้จำแนกต่อไปนี้.


อธิบายอิติวุตตกะ


ในคาถานั้น ชื่อว่า อิติวุตตกะจัดเป็นนิบาต 4 อย่าง คือ เอกนิบาต
ทุกนิบาต ติกนิบาต จตุกกนิบาต. อิติวุตตกะแม้นั้นนับเนื่องในสุตตันตปิฎก
ในปิฎก 3 อย่าง คือ วินัยปิฎก สุตตันตปิฎก อภิธรรมปิฎก. นับเนื่องใน
ขุททกนิกาย ในนิกาย 5 อย่าง คือ ทีฆนิกาย มัชฌิมนิกาย สังยุตตนิกาย
อังคุตตรนิกาย ขุททกนิกาย. จัดเป็นอิติวุตตกะ ในนวังคสัตถุศาสน์ คือ
สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาดก อัพภูตธรรม
เวทัลละ. สงเคราะห์เข้าในธรรมขันธ์จำนวนเล็กน้อย ในธรรมขันธ์ 84,000
ที่พระอานนทเถระผู้เป็นธรรมภัณฑาคาริกปฏิญญาไว้ อย่างนี้ว่า
ธรรมเหล่าใดที่เป็นไปแก่ข้าพเจ้า
ธรรมเหล่านั้น ข้าพเจ้าเรียนจากพระ-
พุทธเจ้า 82,000 จากภิกษุ 2,000 รวมเป็น
84,000 ธรรมขันธ์.

โดยพระสูตร รวมพระสูตรไว้ 112 พระสูตร คือ ในเอกนิบาต 27 สูตร
ในทุกนิบาต 22 สูตร ในติกนิบาต 50 สูตร ในจตุกนิบาต 13 สูตร. อิติ-
วุตตกะนั้น ในบรรดานิบาต มีเอกนิบาตเป็นนิบาตแรก ในบรรดาวรรค
มีปาฎิโภควรรคเป็นวรรคแรก ในบรรดาสูตรมีโลภสูตรเป็นสูตรแรก. อนึ่ง
อิติวุตตกะแม้นั้น มีคำขึ้นต้นที่ท่านพระอานนท์กล่าวไว้ในคราวทำสังคายนา
ใหญ่ครั้งแรก มีอาทิว่า วุตฺตํ เหตํ ภควคา เป็นคำแรก. ก็การสังคายนา
ใหญ่ครั้งแรกนี้นั้น ยกขึ้นสู่แบบแผน ปรากฏอยู่ในวินัยปิฎกแล้วแล. อนึ่ง
กถามรรคใดจะพึงกล่าวไว้ เพื่อจะได้เข้าใจในคำขึ้นต้นในที่นี้ กถามรรค
แม้นั้นก็ได้กล่าวไว้แล้ว โดยพิสดารในอรรถกถาทีฆนิกาย ชื่อ สุมังคลวิลาสินี
เพราะเหตุนั้น นักศึกษาพึงทราบตามนัยที่กล่าวไว้ ในอรรถกถานั้นเถิด.

นิทานวรรณนา


ก็คำขึ้นต้นมีอาทิว่า วุตฺตํ เหตํ ภควตา และพระสูตรมีอาทิว่า
เอกธมฺมํ ภิกฺขเว ปชหถ นี้ใด ในคำขึ้นต้นและพระสูตรนั้น บททั้งหลาย
มีอาทิว่า วุตฺตํ ภควตา เป็นบทนาม. บทว่า อิติ เป็นบทนิบาต. บทว่า
ในบทว่า ปชหถ นี้ เป็นบทอุปสรรค. ว่า ชหถ เป็นบทอาขยาต.
พึงทราบการจำแนกบทในที่ทุกแห่งตามนัยนี้.

อธิบายวุตตศัพท์


อนึ่ง โดยอรรถ วุตตศัพท์ที่มีอุปสรรคและไม่มีอุปสรรดูก่อน ย่อม
ปรากฏในอรรถทั้งหลายมีอาทิอย่างนี้ คือ การหว่านพืช การทำพืชที่หว่านให้
เสมอกัน การโกนผม การเลี้ยงชีวิต ความหลุดพ้น การเป็นไปโดยความเป็น
ปาพจน์ การเล่าเรียน การกล่าว.
จริงอย่างนั้น วุตตศัพท์นั่นมาในการหว่านพืช ในประโยคเป็นต้นว่า