เมนู

เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อายสฺมา, ภนฺเต, ภทฺทิโย อรญฺญคโตปิ รุกฺขมูลคโตปิ สุญฺญาคารคโตปิ อภิกฺขณํ อุทานํ อุทาเนสิ – ‘อโห สุขํ, อโห สุข’นฺติฯ นิสฺสํสยํ โข, ภนฺเต, อายสฺมา ภทฺทิโย อนภิรโตว พฺรหฺมจริยํ จรติฯ ตํเยว วา ปุริมํ รชฺชสุขํ สมนุสฺสรนฺโต อรญฺญคโตปิ รุกฺขมูลคโตปิ สุญฺญาคารคโตปิ อภิกฺขณํ อุทานํ อุทาเนสิ – ‘อโห สุขํ, อโห สุข’’’นฺติฯ

อถ โข ภควา อญฺญตรํ ภิกฺขุํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, มม วจเนน ภทฺทิยํ ภิกฺขุํ อามนฺเตหิ – ‘สตฺถา ตํ, อาวุโส ภทฺทิย, อามนฺเตตี’’’ติ ฯ ‘‘เอวํ ภนฺเต’’ติ โข โส ภิกฺขุ ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา เยนายสฺมา ภทฺทิโย เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ ภทฺทิยํ เอตทโวจ – ‘‘สตฺถา ตํ, อาวุโส ภทฺทิย, อามนฺเตตี’’ติฯ ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อายสฺมา ภทฺทิโย ตสฺส ภิกฺขุโน ปฏิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ ภทฺทิยํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, ภทฺทิย, อรญฺญคโตปิ รุกฺขมูลคโตปิ สุญฺญาคารคโตปิ อภิกฺขณํ อุทานํ อุทาเนสิ – ‘อโห สุขํ, อโห สุข’’’นฺติ? ‘‘เอวํ ภนฺเต’’ติฯ ‘‘กิํ ปน ตฺวํ, ภทฺทิย, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน อรญฺญคโตปิ รุกฺขมูลคโตปิ สุญฺญาคารคโตปิ อภิกฺขณํ อุทานํ อุทาเนสิ – ‘อโห สุขํ อโห สุข’’’นฺติ? ‘‘ปุพฺเพ เม, ภนฺเต, รญฺโญ สโตปิ อนฺโตปิ อนฺเตปุเร รกฺขา สุสํวิหิตา โหติ, พหิปิ อนฺเตปุเร รกฺขา สุสํวิหิตา โหติ, อนฺโตปิ นคเร รกฺขา สุสํวิหิตา โหติ, พหิปิ นคเร รกฺขา สุสํวิหิตา โหติ, อนฺโตปิ ชนปเท รกฺขา สุสํวิหิตา โหติ, พหิปิ ชนปเท รกฺขา สุสํวิหิตา โหติฯ โส โข อหํ, ภนฺเต, เอวํ รกฺขิโตปิ โคปิโตปิ สนฺโต ภีโต อุพฺพิคฺโค อุสฺสงฺกี อุตฺรสฺโต วิหรามิฯ เอตรหิ โข ปน อหํ เอโก, ภนฺเต, อรญฺญคโตปิ รุกฺขมูลคโตปิ สุญฺญาคารคโตปิ อภีโต อนุพฺพิคฺโค อนุสฺสงฺกี อนุตฺรสฺโต อปฺโปสฺสุกฺโก ปนฺนโลโม ปรทตฺตวุตฺโต มิคภูเตน เจตสา วิหรามีติฯ อิมํ โข อหํ, ภนฺเต, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน อรญฺญคโตปิ รุกฺขมูลคโตปิ สุญฺญาคารคโตปิ อภิกฺขณํ อุทานํ อุทาเนมิ – ‘อโห สุขํ, อโห สุข’’’นฺติฯ อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

[อุทา. 20] ‘‘ยสฺสนฺตรโต น สนฺติ โกปา, อิติ ภวาภวตญฺจ วีติวตฺโต;

ตํ วิคตภยํ สุขิํ อโสกํ, เทวา นานุภวนฺติ ทสฺสนายา’’ติฯ

เทวทตฺตวตฺถุ

[333] อถ โข ภควา อนุปิยายํ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน โกสมฺพี เตน จาริกํ ปกฺกามิฯ อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน โกสมฺพี ตทวสริฯ ตตฺร สุทํ ภควา โกสมฺพิยํ วิหรติ โฆสิตาราเมฯ อถ โข เทวทตฺตสฺส รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘กํ นุ โข อหํ ปสาเทยฺยํ, ยสฺมิํ เม ปสนฺเน พหุลาภสกฺกาโร อุปฺปชฺเชยฺยา’’ติ? อถ โข เทวทตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข อชาตสตฺตุ กุมาโร ตรุโณ เจว อายติํ ภทฺโท จฯ ยํนูนาหํ อชาตสตฺตุํ กุมารํ ปสาเทยฺยํฯ ตสฺมิํ เม ปสนฺเน พหุลาภสกฺกาโร อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติฯ

อถ โข เทวทตฺโต เสนาสนํ สํสาเมตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน ราชคหํ เตน ปกฺกามิฯ อนุปุพฺเพน เยน ราชคหํ ตทวสริฯ อถ โข เทวทตฺโต สกวณฺณํ ปฏิสํหริตฺวา กุมารกวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวา อหิเมขลิกาย อชาตสตฺตุสฺส กุมารสฺส อุจฺฉงฺเค [อุจฺจงฺเก (สฺยา.)] ปาตุรโหสิฯ อถ โข อชาตสตฺตุ กุมาโร ภีโต อโหสิ, อุพฺพิคฺโค อุสฺสงฺกี อุตฺรสฺโตฯ อถ โข เทวทตฺโต อชาตสตฺตุํ กุมารํ เอตทโวจ – ‘‘ภายสิ มํ ตฺวํ กุมารา’’ติ? ‘‘อาม, ภายามิฯ โกสิ ตฺว’’นฺติ? ‘‘อหํ เทวทตฺโต’’ติฯ ‘‘สเจ โข ตฺวํ, ภนฺเต, อยฺโย เทวทตฺโต, อิงฺฆ สเกเนว วณฺเณน ปาตุภวสฺสู’’ติฯ อถ โข เทวทตฺโต กุมารกวณฺณํ ปฏิสํหริตฺวา สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธโร อชาตสตฺตุสฺส กุมารสฺส ปุรโต อฏฺฐาสิฯ อถ โข อชาตสตฺตุ กุมาโร เทวทตฺตสฺส อิมินา อิทฺธิปาฏิหาริเยน อภิปฺปสนฺโน ปญฺจหิ รถสเตหิ สายํ ปาตํ อุปฏฺฐานํ คจฺฉติ, ปญฺจ จ ถาลิปากสตานิ ภตฺตาภิหาโร อภิหรียติฯ

อถ โข เทวทตฺตสฺส ลาภสกฺการสิโลเกน อภิภูตสฺส ปริยาทินฺนจิตฺตสฺส เอวรูปํ อิจฺฉาคตํ อุปฺปชฺชิ – ‘‘อหํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริหริสฺสามี’’ติ ฯ สห จิตฺตุปฺปาทาว เทวทตฺโต ตสฺสา อิทฺธิยา ปริหายิฯ

[อ. นิ. 5.100] เตน โข ปน สมเยน กกุโธ นาม โกฬิยปุตฺโต, อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส อุปฏฺฐาโก, อธุนา กาลงฺกโต อญฺญตรํ มโนมยํ กายํ อุปปนฺโนฯ ตสฺส เอวรูโป อตฺตภาวปฺปฏิลาโภ โหติ – เสยฺยถาปิ นาม ทฺเว วา ตีณิ วา มาคธกานิ [มาคธิกานิ (สฺยา.)] คามกฺเขตฺตานิฯ โส เตน อตฺตภาวปฺปฏิลาเภน เนว อตฺตานํ น ปรํ พฺยาพาเธติฯ อถ โข กกุโธ เทวปุตฺโต เยนายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิโต โข กกุโธ เทวปุตฺโต อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ เอตทโวจ – ‘‘เทวทตฺตสฺส, ภนฺเต, ลาภสกฺการสิโลเกน อภิภูตสฺส ปริยาทินฺนจิตฺตสฺส [ปริยาทิณฺณจิตฺตสฺส (ก.)] เอวรูปํ อิจฺฉาคตํ อุปฺปชฺชิ – ‘อหํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริหริสฺสามี’ติฯ สห จิตฺตุปฺปาทาว ภนฺเต, เทวทตฺโต ตสฺสา อิทฺธิยา ปริหีโน’’ติฯ อิทมโวจ กกุโธ เทวปุตฺโตฯ อิทํ วตฺวา อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถว อนฺตรธายิฯ

อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ , อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ ฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กกุโธ นาม, ภนฺเต, โกฬิยปุตฺโต มม อุปฏฺฐาโก อธุนา กาลงฺกโต อญฺญตรํ มโนมยํ กายํ อุปปนฺโนฯ ตสฺส เอวรูโป อตฺตภาวปฺปฏิลาโภ – เสยฺยถาปิ นาม ทฺเว วา ตีณิ วา มาคธกานิ คามกฺเขตฺตานิฯ โส เตน อตฺตภาวปฺปฏิลาเภน เนว อตฺตานํ น ปรํ พฺยาพาเธติฯ อถ โข, ภนฺเต, กกุโธ เทวปุตฺโต เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิโต โข, ภนฺเต, กกุโธ เทวปุตฺโต มํ เอตทโวจ – ‘เทวทตฺตสฺส, ภนฺเต, ลาภสกฺการสิโลเกน อภิภูตสฺส ปริยาทินฺนจิตฺตสฺส เอวรูปํ อิจฺฉาคตํ อุปฺปชฺชิ – อหํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริหริสฺสามีติฯ สห จิตฺตุปฺปาทาว ภนฺเต, เทวทตฺโต ตสฺสา อิทฺธิยา ปริหีโน’ติฯ อิทมโวจ, ภนฺเต, กกุโธ เทวปุตฺโตฯ อิทํ วตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถว อนฺตรธายี’’ติฯ