เมนู

นวกมฺมทานํ

[308] อถ โข ภควา ราชคเห ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน เวสาลี เตน จาริกํ ปกฺกามิฯ อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน เวสาลี ตทวสริฯ ตตฺร สุทํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํฯ เตน โข ปน สมเยน มนุสฺสา สกฺกจฺจํ นวกมฺมํ กโรนฺติฯ เยปิ ภิกฺขู นวกมฺมํ อธิฏฺเฐนฺติ เตปิ สกฺกจฺจํ อุปฏฺเฐนฺติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน ฯ อถ โข อญฺญตรสฺส ทลิทฺทสฺส ตุนฺนวายสฺส เอตทโหสิ – ‘‘น โข อิทํ โอรกํ ภวิสฺสติ, ยถยิเม มนุสฺสา สกฺกจฺจํ นวกมฺมํ กโรนฺติ; ยํนูนาหมฺปิ นวกมฺมํ กเรยฺย’’นฺติฯ อถ โข โส ทลิทฺโท ตุนฺนวาโย สามํ จิกฺขลฺลํ มทฺทิตฺวา อิฏฺฐกาโย จินิตฺวา กุฏฺฏํ อุฏฺฐาเปสิฯ เตน อกุสลเกน จิตา วงฺกา ภิตฺติ ปริปติฯ ทุติยมฺปิ โข…เป.… ตติยมฺปิ โข โส ทลิทฺโท ตุนฺนวาโย สามํ จิกฺขลฺลํ มทฺทิตฺวา อิฏฺฐกาโย จินิตฺวา กุฏฺฏํ อุฏฺฐาเปสิฯ เตน อกุสลเกน จิตา วงฺกา ภิตฺติ ปริปติฯ อถ โข โส ทลิทฺโท ตุนฺนวาโย อุชฺฌายติ ขิยฺยติ วิปาเจติ – ‘‘เย อิเมสํ สมณานํ สกฺยปุตฺติยานํ เทนฺติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ, เต อิเม โอวทนฺติ อนุสาสนฺติ, เตสญฺจ นวกมฺมํ อธิฏฺเฐนฺติฯ อหํ ปนมฺหิ ทลิทฺโทฯ น มํ โกจิ โอวทติ วา อนุสาสติ วา นวกมฺมํ วา อธิฏฺเฐตี’’ติฯ อสฺโสสุํ โข ภิกฺขู ตสฺส ทลิทฺทสฺส ตุนฺนวายสฺส อุชฺฌายนฺตสฺส ขิยฺยนฺตสฺส วิปาเจนฺตสฺสฯ อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, นวกมฺมํ ทาตุํฯ นวกมฺมิโก, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุสฺสุกฺกํ อาปชฺชิสฺสติ – ‘กินฺติ นุ โข วิหาโร ขิปฺปํ ปริโยสานํ คจฺเฉยฺยา’ติ; ขณฺฑํ ผุลฺลํ ปฏิสงฺขริสฺสติฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, ทาตพฺพํฯ ปฐมํ ภิกฺขุ ยาจิตพฺโพ, ยาจิตฺวา พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ ญาเปตพฺโพ –

[309] ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆฯ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส คหปติโน วิหารํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน นวกมฺมํ ทเทยฺยฯ เอสา ญตฺติฯ

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆฯ สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส คหปติโน วิหารํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน นวกมฺมํ เทติฯ ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส คหปติโน วิหารํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน นวกมฺมสฺส ทานํ, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺยฯ

‘‘ทินฺโน สงฺเฆน อิตฺถนฺนามสฺส คหปติโน วิหาโร อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน นวกมฺมํฯ ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติฯ

อคฺคาสนาทิอนุชานนํ

[310] อถ โข ภควา เวสาลิยํ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน สาวตฺถิ เตน จาริกํ ปกฺกามิ ฯ เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยานํ ภิกฺขูนํ อนฺเตวาสิกา ภิกฺขู พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส ปุรโต ปุรโต คนฺตฺวา วิหาเร ปริคฺคณฺหนฺติ, เสยฺยาโย ปริคฺคณฺหนฺติ – อิทํ อมฺหากํ อุปชฺฌายานํ ภวิสฺสติ, อิทํ อมฺหากํ อาจริยานํ ภวิสฺสติ, อิทํ อมฺหากํ ภวิสฺสตี’’ติฯ

อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส ปิฏฺฐิโต ปิฏฺฐิโต คนฺตฺวา วิหาเรสุ ปริคฺคหิเตสุ, เสยฺยาสุ ปริคฺคหิตาสุ, เสยฺยํ อลภมาโน อญฺญตรสฺมิํ รุกฺขมูเล นิสีทิฯ อถ โข ภควา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺฐาย อุกฺกาสิฯ อายสฺมาปิ สาริปุตฺโต อุกฺกาสิฯ ‘‘โก เอตฺถา’’ติ? ‘‘อหํ, ภควา, สาริปุตฺโต’’ติฯ ‘‘กิสฺส ตฺวํ, สาริปุตฺตํ, อิธ นิสินฺโน’’ติ? อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา ภิกฺขู ปฏิปุจฺฉิ – ‘‘สจฺจํ กิร, ภิกฺขเว, ฉพฺพคฺคิยานํ ภิกฺขูนํ อนฺเตวาสิกา ภิกฺขู พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส ปุรโต ปุรโต คนฺตฺวา วิหาเร ปริคฺคณฺหนฺติ, เสยฺยาโย ปริคฺคณฺหนฺติ – อิทํ อมฺหากํ อุปชฺฌายานํ ภวิสฺสติ, อิทํ อมฺหากํ อาจริยานํ ภวิสฺสติ, อิทํ อมฺหากํ ภวิสฺสตี’’ติ? ‘‘สจฺจํ ภควา’’ติฯ วิครหิ พุทฺโธ ภควา…เป.… ‘‘กถญฺหิ นาม เต, ภิกฺขเว, โมฆปุริสา พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส ปุรโต ปุรโต คนฺตฺวา วิหาเร ปริคฺคเหสฺสนฺติ, เสยฺยาโย ปริคฺคเหสฺสนฺติ – อิทํ อมฺหากํ อุปชฺฌายานํ ภวิสฺสติ, อิทํ อมฺหากํ อาจริยานํ ภวิสฺสติ, อิทํ อมฺหากํ ภวิสฺสตีติ! เนตํ, ภิกฺขเว, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… วิครหิตฺวา…เป.… ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘โก, ภิกฺขเว, อรหติ อคฺคาสนํ อคฺโคทกํ อคฺคปิณฺฑ’’นฺติ?

เอกจฺเจ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘โย, ภควา, ขตฺติยกุลา ปพฺพชิโต โส อรหติ อคฺคาสนํ อคฺโคทกํ อคฺคปิณฺฑ’’นฺติฯ เอกจฺเจ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘โย, ภควา, พฺราหฺมณกุลา ปพฺพชิโต โส อรหติ อคฺคาสนํ อคฺโคทกํ อคฺคปิณฺฑ’’นฺติฯ เอกจฺเจ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘โย, ภควา, คหปติกุลา ปพฺพชิโต โส อรหติ อคฺคาสนํ อคฺโคทกํ อคฺคปิณฺฑ’’นฺติฯ

เอกจฺเจ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘โย, ภควา, สุตฺตนฺติโก โส อรหติ อคฺคาสนํ อคฺโคทกํ อคฺคปิณฺฑ’’นฺติฯ เอกจฺเจ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘โย, ภควา, วินยธโร โส อรหติ อคฺคาสนํ อคฺโคทกํ อคฺคปิณฺฑ’’นฺติฯ เอกจฺเจ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘โย, ภควา, ธมฺมกถิโก โส อรหติ อคฺคาสนํ อคฺโคทกํ อคฺคปิณฺฑ’’นฺติฯ เอกจฺเจ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘โย, ภควา, ปฐมสฺส ฌานสฺส ลาภี โส อรหติ อคฺคาสนํ อคฺโคทกํ อคฺคปิณฺฑ’’นฺติฯ เอกจฺเจ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘โย, ภควา, ทุติยสฺส ฌานสฺส ลาภี โส อรหติ อคฺคาสนํ อคฺโคทกํ อคฺคปิณฺฑ’’นฺติฯ เอกจฺเจ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘โย, ภควา, ตติยสฺส ฌานสฺส ลาภี โส อรหติ อคฺคาสนํ อคฺโคทกํ อคฺคปิณฺฑ’’นฺติฯ เอกจฺเจ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘โย, ภควา, จตุตฺถสฺส ฌานสฺส ลาภี โส อรหติ อคฺคาสนํ อคฺโคทกํ อคฺคปิณฺฑ’’นฺติฯ เอกจฺเจ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘โย, ภควา, โสตาปนฺโน โส อรหติ อคฺคาสนํ อคฺโคทกํ อคฺคปิณฺฑ’’นฺติฯ เอกจฺเจ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘โย, ภควา, สกทาคามี…เป.… โย, ภควา, อนาคามี…เป.… โย, ภควา , อรหา โส อรหติ อคฺคาสนํ อคฺโคทกํ อคฺคปิณฺฑ’’นฺติฯ เอกจฺเจ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘โย, ภควา, เตวิชฺโช โส อรหติ อคฺคาสนํ อคฺโคทกํ อคฺคปิณฺฑ’’นฺติฯ เอกจฺเจ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘โย, ภควา, ฉฬภิญฺโญ โส อรหติ อคฺคาสนํ อคฺโคทกํ อคฺคปิณฺฑ’’นฺติฯ

[311] อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, หิมวนฺตปเทเส [หิมวนฺตปสฺเส (สี. สฺยา.)] มหานิคฺโรโธ อโหสิฯ ตํ ตโย สหายา อุปนิสฺสาย วิหริํสุ – ติตฺติโร จ, มกฺกโฏ จ, หตฺถินาโค จฯ เต อญฺญมญฺญํ อคารวา อปฺปติสฺสา อสภาควุตฺติกา วิหรนฺติฯ อถ โข, ภิกฺขเว, เตสํ สหายานํ เอตทโหสิ – ‘อโห นูน มยํ ชาเนยฺยาม ยํ อมฺหากํ ชาติยา มหนฺตตรํ ตํ มยํ สกฺกเรยฺยาม ครุํ กเรยฺยาม มาเนยฺยาม ปูเชยฺยาม, ตสฺส จ มยํ โอวาเท ติฏฺเฐยฺยามา’ติฯ

‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, ติตฺติโร จ มกฺกโฏ จ หตฺถินาคํ ปุจฺฉิํสุ – ‘ตฺวํ, สมฺม, กิํ โปราณํ สรสี’ติ? ‘ยทาหํ, สมฺมา, โปโต โหมิ, อิมํ นิคฺโรธํ อนฺตรา สตฺถีนํ [อนฺตราสตฺถิกํ (สี.)] กริตฺวา อติกฺกมามิ, อคฺคงฺกุรกํ เม อุทรํ ฉุปติฯ อิมาหํ, สมฺมา, โปราณํ สรามี’ติฯ

‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, ติตฺติโร จ หตฺถินาโค จ มกฺกฏํ ปุจฺฉิํสุ – ‘ตฺวํ, สมฺม, กิํ โปราณํ สรสี’ติ? ‘ยทาหํ, สมฺมา, ฉาโป โหมิ, ฉมายํ นิสีทิตฺวา อิมสฺส นิคฺโรธสฺส อคฺคงฺกุรกํ ขาทามิฯ อิมาหํ, สมฺมา, โปราณํ สรามี’ติฯ

‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, มกฺกโฏ จ หตฺถินาโค จ ติตฺติรํ ปุจฺฉิํสุ – ‘ตฺวํ, สมฺม, กิํ โปราณํ สรสี’ติ? ‘อมุกสฺมิํ, สมฺมา, โอกาเส มหานิคฺโรโธ อโหสิฯ ตโต อหํ ผลํ ภกฺขิตฺวา อิมสฺมิํ โอกาเส วจฺจํ อกาสิํ; ตสฺสายํ นิคฺโรโธ ชาโตฯ ตทาหํ, สมฺมา, ชาติยา มหนฺตตโร’ติ

‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, มกฺกโฏ จ หตฺถินาโค จ ติตฺติรํ เอตทโวจุํ – ‘ตฺวํ, สมฺม, อมฺหากํ ชาติยา มหนฺตตโรฯ ตํ มยํ สกฺกริสฺสาม ครุํ กริสฺสาม มาเนสฺสาม ปูเชสฺสาม, ตุยฺหญฺจ มยํ โอวาเท ปติฏฺฐิสฺสามา’ติฯ อถ โข, ภิกฺขเว, ติตฺติโร มกฺกฏญฺจ หตฺถินาคญฺจ ปญฺจสุ สีเลสุ สมาทเปสิ, อตฺตนา จ ปญฺจสุ สีเลสุ สมาทาย วตฺตติฯ เต อญฺญมญฺญํ สคารวา สปฺปติสฺสา สภาควุตฺติกา วิหริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิํสุฯ เอวํ โข ตํ, ภิกฺขเว, ติตฺติริยํ นาม พฺรหฺมจริยํ อโหสิฯ

[ชา. 1.1.37] ‘‘เย วุฑฺฒมปจายนฺติ, นรา ธมฺมสฺส โกวิทา;

ทิฏฺเฐ ธมฺเม จ ปาสํสา, สมฺปราเย จ สุคฺคตี’’ติฯ

‘‘เต หิ นาม, ภิกฺขเว, ติรจฺฉานคตา ปาณา อญฺญมญฺญํ สคารวา สปฺปติสฺสา สภาควุตฺติกา วิหริสฺสนฺติฯ อิธ โข ตํ, ภิกฺขเว, โสเภถ ยํ ตุมฺเห เอวํ สฺวากฺขาเต ธมฺมวินเย ปพฺพชิตา สมานา อญฺญมญฺญํ อคารวา อปฺปติสฺสา อสภาควุตฺติกา วิหเรยฺยาถ? เนตํ, ภิกฺขเว , อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… วิครหิตฺวา…เป.… ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยถาวุฑฺฒํ อภิวาทนํ, ปจฺจุฏฺฐานํ, อญฺชลิกมฺมํ, สามีจิกมฺมํ, อคฺคาสนํ, อคฺโคทกํ, อคฺคปิณฺฑํฯ น จ, ภิกฺขเว, สงฺฆิกํ ยถาวุฑฺฒํ ปฏิพาหิตพฺพํฯ โย ปฏิพาเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติฯ