เมนู

อารามปริกฺเขปอนุชานนํ

[303] เตน โข ปน สมเยน อาราโม อปริกฺขิตฺโต โหติฯ อชกาปิ ปสุกาปิ อุปโรเป วิเหเฐนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปริกฺขิปิตุํ ตโย วาเฏ – เวฬุวาฏํ, กณฺฑกวาฏํ [วเฏ เวฬุวฏํ กณฺฑกวฏํ (สฺยา.)], ปริข’’นฺติฯ โกฏฺฐโก น โหติฯ ตเถว อชกาปิ ปสุกาปิ อุปโรเป วิเหเฐนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โกฏฺฐกํ อเปสิํ ยมกกวาฏํ โตรณํ ปลิฆ’’นฺติฯ โกฏฺฐเก ติณจุณฺณํ ปริปตติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ , ภิกฺขเว, โอคุมฺเผตฺวา อุลฺลิตฺตาวลิตฺตํ กาตุํ – เสตวณฺณํ กาฬวณฺณํ เครุกปริกมฺมํ มาลากมฺมํ ลตากมฺมํ มกรทนฺตกํ ปญฺจปฏิก’’นฺติฯ อาราโม จิกฺขลฺโล โหติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มรุมฺพํ อุปกิริตุ’’นฺติฯ น ปริยาปุณนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปทรสิลํ นิกฺขิปิตุ’’นฺติฯ อุทกํ สนฺติฏฺฐติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุทกนิทฺธมน’’นฺติฯ

เตน โข ปน สมเยน ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร สงฺฆสฺส อตฺถาย สุธามตฺติกาเลปนํ ปาสาทํ กาเรตุกาโม โหติฯ อถ โข ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘กิํ นุ โข ภควตา ฉทนํ อนุญฺญาตํ, กิํ อนนุญฺญาต’’นฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปญฺจ ฉทนานิ – อิฏฺฐกาฉทนํ, สิลาฉทนํ, สุธาฉทนํ, ติณจฺฉทนํ, ปณฺณจฺฉทน’’นฺติฯ

ปฐมภาณวาโร นิฏฺฐิโตฯ

2. ทุติยภาณวาโร

อนาถปิณฺฑิกวตฺถุ

[304] เตน โข ปน สมเยน อนาถปิณฺฑิโก คหปติ ราชคหกสฺส เสฏฺฐิสฺส ภคินิปติโก โหติฯ อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ ราชคหํ อคมาสิ เกนจิเทว กรณีเยนฯ เตน โข ปน สมเยน ราชคหเกน เสฏฺฐินา สฺวาตนาย พุทฺธปฺปมุโข สงฺโฆ นิมนฺติโต โหติฯ อถ โข ราชคหโก เสฏฺฐี ทาเส จ กมฺมกาเร [กมฺมกเร (สี. สฺยา.)] จ อาณาเปสิ – ‘‘เตน หิ, ภเณ, กาลสฺเสว อุฏฺฐาย ยาคุโย ปจถ, ภตฺตานิ ปจถ, สูปานิ สมฺปาเทถ, อุตฺตริภงฺคานิ สมฺปาเทถา’’ติฯ อถ โข อนาถปิณฺฑิกสฺส คหปติสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ปุพฺเพ ขฺวายํ คหปติ มยิ อาคเต สพฺพกิจฺจานิ นิกฺขิปิตฺวา มมญฺเญว สทฺธิํ ปฏิสมฺโมทติฯ โสทานายํ วิกฺขิตฺตรูโป ทาเส จ กมฺมกาเร จ อาณาเปสิ – ‘เตน หิ, ภเณ, กาลสฺเสว อุฏฺฐาย ยาคุโย ปจถ, ภตฺตานิ ปจถ, สูปานิ สมฺปาเทถ, อุตฺตริภงฺคานิ สมฺปาเทถา’ติฯ กิํ นุ โข อิมสฺส คหปติสฺส อาวาโห วา ภวิสฺสติ, วิวาโห วา ภวิสฺสติ, มหายญฺโญ วา ปจฺจุปฏฺฐิโต , ราชา วา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร นิมนฺติโต สฺวาตนาย สทฺธิํ พลกาเยนา’’ติ?

อถ โข ราชคหโก เสฏฺฐี ทาเส จ กมฺมกาเร จ อาณาเปตฺวา เยน อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อนาถปิณฺฑิเกน คหปตินา สทฺธิํ ปฏิสมฺโมทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ราชคหกํ เสฏฺฐิํ อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เอตทโวจ – ‘‘ปุพฺเพ โข ตฺวํ, คหปติ, มยิ อาคเต สพฺพกิจฺจานิ นิกฺขิปิตฺวา มมญฺเญว สทฺธิํ ปฏิสมฺโมทสิฯ โสทานิ ตฺวํ วิกฺขิตฺตรูโป ทาเส จ กมฺมกาเร จ อาณาเปสิ – ‘เตน หิ, ภเณ, กาลสฺเสว อุฏฺฐาย ยาคุโย ปจถ, ภตฺตานิ ปจถ, สูปานิ สมฺปาเทถ, อุตฺตริภงฺคานิ สมฺปาเทถา’ติฯ กิํ นุ โข เต, คหปติ, อาวาโห วา ภวิสฺสติ, วิวาโห วา ภวิสฺสติ, มหายญฺโญ วา ปจฺจุปฏฺฐิโต, ราชา วา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร นิมนฺติโต สฺวาตนาย สทฺธิํ พลกาเยนา’’ติ? ‘‘น เม, คหปติ, อาวาโห วา ภวิสฺสติ, นาปิ วิวาโห วา ภวิสฺสติ, นาปิ ราชา วา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร นิมนฺติโต สฺวาตนาย สทฺธิํ พลกาเยน; อปิ จ เม มหายญฺโญ ปจฺจุปฏฺฐิโต; สฺวาตนาย พุทฺธปฺปมุโข สงฺโฆ นิมนฺติโต’’ติฯ ‘‘พุทฺโธติ ตฺวํ, คหปติ, วเทสี’’ติ? ‘‘พุทฺโธ ตฺยาหํ, คหปติ, วทามี’’ติฯ ‘‘พุทฺโธติ ตฺวํ, คหปติ, วเทสี’’ติ? ‘‘พุทฺโธ ตฺยาหํ, คหปติ, วทามี’’ติฯ ‘‘พุทฺโธติ ตฺวํ, คหปติ, วเทสี’’ติ? ‘‘พุทฺโธ ตฺยาหํ, คหปติ, วทามี’’ติฯ ‘‘โฆโสปิ โข เอโส, คหปติ, ทุลฺลโภ โลกสฺมิํ ยทิทํ – พุทฺโธ พุทฺโธติฯ สกฺกา นุ โข, คหปติ, อิมํ กาลํ ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธ’’นฺติ? ‘‘อกาโล โข, คหปติ, อิมํ กาลํ ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํฯ สฺเวทานิ ตฺวํ กาเลน ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสสิ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธ’’นฺติฯ อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ – สฺเวทานาหํ กาเลน ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสามิ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธนฺติ – พุทฺธคตาย สติยา นิปชฺชิตฺวา รตฺติยา สุทํ ติกฺขตฺตุํ วุฏฺฐาสิ ปภาตํ มญฺญมาโนฯ

[305] [สํ. นิ. 1.242] อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน สิวกทฺวารํ [สีวทฺวารํ (สี.), สีตวนทฺวารํ (สฺยา.)] เตนุปสงฺกมิฯ อมนุสฺสา ทฺวารํ วิวริํสุฯ

อถ โข อนาถปิณฺฑิกสฺส คหปติสฺส นครมฺหา นิกฺขนฺตสฺส อาโลโก อนฺตรธายิ, อนฺธกาโร ปาตุรโหสิ, ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํโส อุทปาทิ; ตโตว ปุน นิวตฺติตุกาโม อโหสิฯ อถ โข สิวโก [สีวโก (สี. สฺยา.)] ยกฺโข อนฺตรหิโต สทฺทมนุสฺสาเวสิ –

‘‘สตํ หตฺถี สตํ อสฺสา, สตํ อสฺสตรีรถา;

สตํ กญฺญาสหสฺสานิ, อามุกฺกมณิกุณฺฑลา;

เอกสฺส ปทวีติหารสฺส, กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสิํ [โสฬสินฺติ (สี. ก.)]

‘‘อภิกฺกม คหปติ อภิกฺกม คหปติ;

อภิกฺกนฺตํ เต เสยฺโย โน ปฏิกฺกนฺต’’นฺติฯ

อถ โข อนาถปิณฺฑิกสฺส คหปติสฺส อนฺธกาโร อนฺตรธายิ, อาโลโก ปาตุรโหสิฯ ยํ อโหสิ ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํโส โส ปฏิปฺปสฺสมฺภิฯ ทุติยมฺปิ โข…เป.… ตติยมฺปิ โข…เป.… อนาถปิณฺฑิกสฺส คหปติสฺส อาโลโก อนฺตรธายิ, อนฺธกาโร ปาตุรโหสิ, ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํโส อุทปาทิ, ตโตว ปุน นิวตฺติตุกาโม อโหสิฯ ตติยมฺปิ โข สิวโก ยกฺโข อนฺตรหิโต สทฺทมนุสฺสาเวสิ –

‘‘สตํ หตฺถี สตํ อสฺสา, สตํ อสฺสตรีรถา;

สตํ กญฺญาสหสฺสานิ, อามุกฺกมณิกุณฺฑลา;

เอกสฺส ปทวีติหารสฺส, กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสิํฯ

‘‘อภิกฺกม คหปติ อภิกฺกม คหปติ,

อภิกฺกนฺตํ เต เสยฺโย โน ปฏิกฺกนฺต’’นฺติฯ

ตติยมฺปิ โข อนาถปิณฺฑิกสฺส คหปติสฺส อนฺธกาโร อนฺตรธายิ , อาโลโก ปาตุรโหสิ, ยํ อโหสิ ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํโส, โส ปฏิปฺปสฺสมฺภิฯ อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน สีตวนํ เตนุปสงฺกมิฯ เตน โข ปน สมเยน ภควา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺฐาย อชฺโฌกาเส จงฺกมติฯ อทฺทสา โข ภควา อนาถปิณฺฑิกํ คหปติํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํฯ ทิสฺวาน จงฺกมา โอโรหิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิฯ

นิสชฺช โข ภควา อนาถปิณฺฑิกํ คหปติํ เอตทโวจ – ‘‘เอหิ สุทตฺตา’’ติฯ อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ – นาเมน มํ ภควา อาลปตีติ – หฏฺโฐ อุทคฺโค เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กจฺจิ, ภนฺเต, ภควา สุขํ สยิตฺถา’’ติ?

[สํ. นิ. 1.242] ‘‘สพฺพทา เว สุขํ เสติ, พฺราหฺมโณ ปรินิพฺพุโต;

โย น ลิมฺปติ กาเมสุ, สีติภูโต นิรูปธิฯ

‘‘สพฺพา อาสตฺติโย เฉตฺวา, วิเนยฺย หทเย ทรํ;

อุปสนฺโต สุขํ เสติ, สนฺติํ ปปฺปุยฺย เจตสา’’ติ [เจตโสติ (สี. สฺยา.)]

อถ โข ภควา อนาถปิณฺฑิกสฺส คหปติสฺส อนุปุพฺพิํ กถํ [อานุปุพฺพิกถํ (สี.)] กเถสิ, เสยฺยถิทํ – ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ, กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ, เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิฯ ยทา ภควา อญฺญาสิ อนาถปิณฺฑิกํ คหปติํ กลฺลจิตฺตํ มุทุจิตฺตํ วินีวรณจิตฺตํ อุทคฺคจิตฺตํ ปสนฺนจิตฺตํ, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา ตํ ปกาเสสิ – ทุกฺขํ, สมุทยํ, นิโรธํ, มคฺคํฯ เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย, เอวเมว อนาถปิณฺฑิกสฺส คหปติสฺส ตสฺมิํเยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ยํ กิญฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺมนฺติฯ อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ ทิฏฺฐธมฺโม ปตฺตธมฺโม วิทิตธมฺโม ปริโยคาฬฺหธมฺโม ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิคตกถํกโถ เวสารชฺชปฺปตฺโต อปรปฺปจฺจโย สตฺถุสาสเน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ ภนฺเต! เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตีติ – เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโตฯ เอสาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ, ธมฺมญฺจ, ภิกฺขุสงฺฆญฺจฯ อุปาสกํ มํ ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คตํฯ อธิวาเสตุ จ เม, ภนฺเต, ภควา สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธิํ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติฯ อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวนฯ

อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิฯ

อสฺโสสิ โข ราชคหโก เสฏฺฐี – ‘‘อนาถปิณฺฑิเกน กิร คหปตินา สฺวาตนาย พุทฺธปฺปมุโข สงฺโฆ นิมนฺติโต’’ติฯ

[306] อถ โข ราชคหโก เสฏฺฐี อนาถปิณฺฑิกํ คหปติํ เอตทโวจ – ‘‘ตยา กิร, คหปติ, สฺวาตนาย พุทฺธปฺปมุโข สงฺโฆ นิมนฺติโตฯ ตฺวญฺจาสิ อาคนฺตุโกฯ เทมิ เต, คหปติ, เวยฺยายิกํ เยน ตฺวํ พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส ภตฺตํ กเรยฺยาสี’’ติฯ ‘‘อลํ, คหปติ อตฺถิ เม เวยฺยายิกํ เยนาหํ พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส ภตฺตํ กริสฺสามี’’ติฯ

อสฺโสสิ โข ราชคหโก เนคโม – ‘‘อนาถปิณฺฑิเกน กิร คหปตินา สฺวาตนาย พุทฺธปฺปมุโข สงฺโฆ นิมนฺติโต’’ติฯ อถ โข ราชคหโก เนคโม อนาถปิณฺฑิกํ คหปติํ เอตทโวจ – ‘‘ตยา กิร, คหปติ, สฺวาตนาย พุทฺธปฺปมุโข สงฺโฆ นิมนฺติโตฯ ตฺวญฺจาสิ อาคนฺตุโกฯ เทมิ เต, คหปติ, เวยฺยายิกํ เยน ตฺวํ พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส ภตฺตํ กเรยฺยาสี’’ติฯ ‘‘อลํ อยฺย; อตฺถิ เม เวยฺยายิกํ เยนาหํ พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส ภตฺตํ กริสฺสามี’’ติฯ

อสฺโสสิ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร – ‘‘อนาถปิณฺฑิเกน กิร คหปตินา สฺวาตนาย พุทฺธปฺปมุโข สงฺโฆ นิมนฺติโต’’ติฯ อถ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร อนาถปิณฺฑิกํ คหปติํ เอตทโวจ – ‘‘ตยา กิร, คหปติ, สฺวาตนาย พุทฺธปฺปมุโข สงฺโฆ นิมนฺติโตฯ ตฺวญฺจาสิ อาคนฺตุโกฯ เทมิ เต, คหปติ, เวยฺยายิกํ เยน ตฺวํ พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส ภตฺตํ กเรยฺยาสี’’ติฯ ‘‘อลํ เทว; อตฺถิ เม เวยฺยายิกํ เยนาหํ พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส ภตฺตํ กริสฺสามี’’ติฯ

อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ราชคหกสฺส เสฏฺฐิสฺส นิเวสเน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ – ‘‘กาโล, ภนฺเต, นิฏฺฐิตํ ภตฺต’’นฺติฯ อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน ราชคหกสฺส เสฏฺฐิสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิ สทฺธิํ ภิกฺขุสงฺเฆนฯ

อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปตฺวา สมฺปวาเรตฺวา, ภควนฺตํ ภุตฺตาวิํ โอนีตปตฺตปาณิํ, เอกมนฺตํ นิสีทิ ฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อธิวาเสตุ เม, ภนฺเต, ภควา สาวตฺถิยํ วสฺสาวาสํ สทฺธิํ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติฯ ‘‘สุญฺญาคาเร โข, คหปติ, ตถาคตา อภิรมนฺตี’’ติฯ ‘‘อญฺญาตํ ภควา, อญฺญาตํ สุคตา’’ติฯ อถ โข ภควา อนาถปิณฺฑิกํ คหปติํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกามิฯ

[307] เตน โข ปน สมเยน อนาถปิณฺฑิโก คหปติ พหุมิตฺโต โหติ พหุสหาโย อาเทยฺยวาโจฯ อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ ราชคเห ตํ กรณียํ ตีเรตฺวา เยน สาวตฺถิ เตน ปกฺกามิฯ อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ อนฺตรามคฺเค มนุสฺเส อาณาเปสิ – ‘‘อาราเม , อยฺยา, กโรถ, วิหาเร ปติฏฺฐาเปถ, ทานานิ ปฏฺฐเปถฯ พุทฺโธ โลเก อุปฺปนฺโนฯ โส จ มยา ภควา นิมนฺติโต อิมินา มคฺเคน อาคจฺฉิสฺสตี’’ติฯ อถ โข เต มนุสฺสา อนาถปิณฺฑิเกน คหปตินา อุยฺโยชิตา อาราเม อกํสุ, วิหาเร ปติฏฺฐาเปสุํ, ทานานิ ปฏฺฐเปสุํฯ

อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ สาวตฺถิํ คนฺตฺวา สมนฺตา สาวตฺถิํ อนุวิโลเกสิ – ‘‘กตฺถ นุ โข ภควา วิหเรยฺย? ยํ อสฺส คามโต เนว อติทูเร น อจฺจาสนฺเน, คมนาคมนสมฺปนฺนํ, อตฺถิกานํ อตฺถิกานํ มนุสฺสานํ อภิกฺกมนียํ, ทิวา อปฺปากิณฺณํ, รตฺติํ อปฺปสทฺทํ, อปฺปนิคฺโฆสํ, วิชนวาตํ, มนุสฺสราหสฺเสยฺยกํ, ปฏิสลฺลานสารุปฺป’’นฺติฯ

อทฺทสา โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เชตสฺส กุมารสฺส [ราชกุมารสฺส (สี. สฺยา. กํ.)] อุยฺยานํ – คามโต เนว อติทูเร น อจฺจาสนฺเน, คมนาคมนสมฺปนฺนํ, อตฺถิกานํ อตฺถิกานํ มนุสฺสานํ อภิกฺกมนียํ, ทิวา อปฺปากิณฺณํ, รตฺติํ อปฺปสทฺทํ, อปฺปนิคฺโฆสํ, วิชนวาตํ, มนุสฺสราหสฺเสยฺยกํ, ปฏิสลฺลานสารุปฺปํฯ ทิสฺวาน เยน เชโต กุมาโร เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา เชตํ กุมารํ เอตทโวจ – ‘‘เทหิ เม, อยฺยปุตฺต, อุยฺยานํ อารามํ กาตุ’’นฺติ [เกตุํ (วชีรพุทฺธิฏีกายํ)]ฯ ‘‘อเทยฺโย, คหปติ, อาราโม อปิ โกฏิสนฺถเรนา’’ติฯ ‘‘คหิโต, อยฺยปุตฺต, อาราโม’’ติฯ ‘‘น, คหปติ, คหิโต อาราโม’’ติฯ คหิโต น คหิโตติ โวหาริเก มหามตฺเต ปุจฺฉิํสุฯ

มหามตฺตา เอวมาหํสุ – ‘‘ยโต ตยา , อยฺยปุตฺต, อคฺโฆ กโต, คหิโต อาราโม’’ติฯ อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ สกเฏหิ หิรญฺญํ นิพฺพาหาเปตฺวา เชตวนํ โกฏิสนฺถรํ สนฺถราเปสิฯ สกิํ นีหฏํ หิรญฺญํ โถกสฺส โอกาสสฺส โกฏฺฐกสามนฺตา นปฺปโหติฯ อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ มนุสฺเส อาณาเปสิ – ‘‘คจฺฉถ, ภเณ, หิรญฺญํ อาหรถ; อิมํ โอกาสํ สนฺถริสฺสามา’’ติฯ

อถ โข เชตสฺส กุมารสฺส เอตทโหสิ – ‘‘น โข อิทํ โอรกํ ภวิสฺสติ, ยถายํ คหปติ ตาว พหุํ หิรญฺญํ ปริจฺจชตี’’ติฯ อนาถปิณฺฑิกํ คหปติํ เอตทโวจ – ‘‘อลํ, คหปติ; มา ตํ โอกาสํ สนฺถราเปสิฯ เทหิ เม เอตํ โอกาสํฯ มเมตํ ทานํ ภวิสฺสตี’’ติฯ อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ – อยํ โข เชโต กุมาโร อภิญฺญาโต ญาตมนุสฺโส; มหตฺถิโก โข ปน เอวรูปานํ ญาตมนุสฺสานํ อิมสฺมิํ ธมฺมวินเย ปสาโทติ – ตํ โอกาสํ เชตสฺส กุมารสฺส ปาทาสิ [อทาสิ (สฺยา.)]ฯ อถ โข เชโต กุมาโร ตสฺมิํ โอกาเส โกฏฺฐกํ มาเปสิฯ

อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เชตวเน วิหาเร การาเปสิ, ปริเวณานิ การาเปสิ, โกฏฺฐเก การาเปสิ, อุปฏฺฐานสาลาโย การาเปสิ, อคฺคิสาลาโย การาเปสิ, กปฺปิยกุฏิโย การาเปสิ, วจฺจกุฏิโย การาเปสิ, จงฺกเม การาเปสิ, จงฺกมนสาลาโย การาเปสิ, อุทปาเน การาเปสิ, อุทปานสาลาโย การาเปสิ, ชนฺตาฆเร การาเปสิ, ชนฺตาฆรสาลาโย การาเปสิ, โปกฺขรณิโย การาเปสิ, มณฺฑเป การาเปสิฯ