‘‘อปเรหิปิ , ภิกฺขเว, ตีหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ นิยสฺสกมฺมํ ธมฺมกมฺมญฺจ โหติ, วินยกมฺมญฺจ, สุวูปสนฺตญฺจฯ อาปตฺติํ อาโรเปตฺวา กตํ โหติ, ธมฺเมน กตํ โหติ, สมคฺเคน กตํ โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ นิยสฺสกมฺมํ ธมฺมกมฺมญฺจ โหติ, วินยกมฺมญฺจ, สุวูปสนฺตญฺจฯ
ธมฺมกมฺมทฺวาทสกํ นิฏฺฐิตํฯ
อากงฺขมานฉกฺกํ
[15] [ปริ. 323] ‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน, อากงฺขมาโน สงฺโฆ, นิยสฺสกมฺมํ กเรยฺยฯ ภณฺฑนการโก โหติ กลหการโก วิวาทการโก ภสฺสการโก สงฺเฆ อธิกรณการโก; พาโล โหติ อพฺยตฺโต อาปตฺติพหุโล อนปทาโน; คิหิสํสฏฺโฐ วิหรติ อนนุโลมิเกหิ คิหิสํสคฺเคหิ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน, อากงฺขมาโน สงฺโฆ, นิยสฺสกมฺมํ กเรยฺยฯ
‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ตีหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน, อากงฺขมาโน สงฺโฆ, นิยสฺสกมฺมํ กเรยฺยฯ อธิสีเล สีลวิปนฺโน โหติ, อชฺฌาจาเร อาจารวิปนฺโน โหติ, อติทิฏฺฐิยา ทิฏฺฐิวิปนฺโน โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน, อากงฺขมาโน สงฺโฆ, นิยสฺสกมฺมํ กเรยฺยฯ
‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ตีหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน, อากงฺขมาโน สงฺโฆ, นิยสฺสกมฺมํ กเรยฺยฯ พุทฺธสฺส อวณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส อวณฺณํ ภาสติ, สงฺฆสฺส อวณฺณํ ภาสติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน, อากงฺขมาโน สงฺโฆ, นิยสฺสกมฺมํ กเรยฺยฯ
‘‘ติณฺณํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ, อากงฺขมาโน สงฺโฆ, นิยสฺสกมฺมํ กเรยฺยฯ