เมนู

อรรถกถากุหสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในกุหสูตรที่ 6 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า กุหา แปลว่า ผู้หลอกลวง. บทว่า ถทฺธา ได้แก่ ดื้อรั้น
ด้วยความโกรธ และมานะ. บทว่า ลปา ได้แก่ พูดพล่าม. บทว่า สิงฺคี
ความว่า ผู้ประกอบด้วยกิเลสที่ปรากฏเสมือนเขาสัตว์ ที่ท่านกล่าวอย่างนี้ว่า
บรรดากิเลสเหล่านั้น การไว้ตัวเป็นไฉน ? คือ การไว้ตัว ภาวะคือการไว้ตัว
ภาวะคือการไว้ในตัวในอิริยาบถ 4 กิริยาวางท่าในอิริยาบถ 4 ภาวะคือความ
มีคนแวดล้อม กิริยาวางท่ากับคนแวดล้อม. บทว่า อุนฺนฬา ความว่า เป็น
ดุจไม้อ้อที่ชูขึ้น คือยกมานะเปล่า ๆ ขึ้นตั้ง. บทว่า อสมาหิตา ความว่า
ไม่ได้แม้เพียงเอกัคคตาจิต. บทว่า น เม เต ภิกฺขเว ภิกฺขู มามกา
ความว่า ภิกษุเหล่านั้นของเรา ไม่ใช่เป็นสมบัติของเรา. ก็บทนี้ว่า เต มยฺหํ
ตรัสเพราะบวชอุทิศพระศาสดา. บทว่า เต โข เม ภิกฺขเว ภิกฺขู มามกา
ความว่า ก็ตรัสเพราะบวชอุทิศตนในศาสนาแม้นี้ แต่ตรัสว่า มามกา เพราะ
เป็นผู้ปฏิบัติชอบ. บทว่า วุฑฺฒึ วิรุฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชนฺติ ความว่า
ภิกษุเหล่านั้น ย่อมถึงความเจริญ เพราะเจริญด้วยศีลาทิคุณ ความงอกงาม
เพราะไม่หวั่นไหว ความไพบูลย์ เพราะแผ่ไปในที่ทุกสถาน. ก็ภิกษุเหล่านี้นั้น
ย่อมงอกงามจนถึงอรหัตมรรค เมื่อบรรลุพระอรหัตผลแล้ว ชื่อว่า งอกงาม.
ทั้งในพระสูตรนี้ ทั้งในคาถา ตรัสทั้งวัฏฏะทั้งวิวัฏฏะ ด้วยประการฉะนี้.
จบอรรถกถากุหสูตรที่ 6

7. สันตุฏฐิสูตร


ว่าด้วยสันโดษด้วยปัจจัย 4


[27] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ปัจจัย 4 อย่างนี้เป็นของเล็กน้อยด้วย
หาง่ายด้วย ไม่มีโทษด้วย ปัจจัย 4 อย่างคืออะไร คือ ผ้าบังสุกุล อาหาร
ที่ได้มาโดยเที่ยวบิณฑบาต เสนาสนะโคนไม้ ยาน้ำมูตรเน่า นี้แล
ปัจจัย 4 อย่าง เป็นของเล็กน้อยด้วย หาง่ายด้วย ไม่มีโทษด้วย เมื่อภิกษุ
เป็นผู้สันโดษด้วยปัจจัยเล็กน้อยและหาง่าย เรากล่าวความสันโดษของเธอนี้ว่า
เป็นองค์แห่งความเป็นสมณะอย่างหนึ่ง.
ภิกษุผู้สันโดษด้วยปัจจัยอันหาโทษ
มิได้ เล็กน้อยและหาง่าย ย่อมไม่มีความ
ทุกข์ใจเพราะเรื่องเสนาสนะ จีวร ข้าว น้ำ
จะไปทิศใดก็ไม่เดือดร้อน.
ธรรมเหล่าใดที่พระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสไว้ สมควรแก่ความเป็นสมณะ ธรรม
เหล่านั้นเป็นอันภิกษุผู้สันโดษ ผู้ไม่ประ-
มาทนั้นกำหนดไว้ได้แล้ว.

จบสันตุฏฐิสูตรที่ 7