เมนู

กรรมอันมีโทษ 1 วจีกรรมอันมีโทษ 1 มโนกรรมอันมีโทษ 1 ทิฏฐิอันมี
โทษ 1 บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม 4 ประการนี้แล ย่อมเกิดในนรกเหมือน
ถูกนำมาทิ้งลง.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม 4 ประการ ย่อมเกิด
ในสวรรค์เหมือนเชิญมาประดิษฐานไว้ ธรรม 4 ประการเป็นไฉน คือ กาย-
กรรมอันไม่มีโทษ 1 วจีกรรมอันไม่มีโทษ 1 มโนกรรมอันไม่มีโทษ
ทิฏฐิอันไม่มีโทษ 1 บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม 4 ประการนี้แล ย่อมเกิดใน
สวรรค์เหมือนเชิญมาประดิษฐานไว้
จบอัพยาปัชฌสูตรที่ 8

9. สัปปุริสสูตร


ว่าด้วยกรรมและวิบากของกรรม


[240] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม 4 ประการ
ย่อมเกิดในนรกเหมือนถูกนำมาทั้งลงธรรม 4 ประการเป็นไฉน คือ กายกรรม
อันมีความเบียดเบียน 1 วจีกรรมอันมีความเบียดเบียน 1 มโนกรรมอันมี
ความเบียดเบียน 1 ทิฏฐิอันมีความเบียดเบียน 1 บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม
4 ประการนี้แล ย่อมเกิดในนรกเหมือนถูกนำมาทิ้งลง.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม 4 ประการ ย่อมเกิด
ในสวรรค์เหมือนเชิญมาประดิษฐานไว้ ธรรม 4 ประการเป็นไฉน คือ กาย
กรรมอัน ไม่มีความเบียดเบียน 1 วจีกรรมอันไม่มีความเบียดเบียน 1 มโน-

กรรมอันไม่มีความเบียดเบียน 1 ทิฏฐิอัน ไม่มีความเบียดเบียน 1 บุคคลผู้
ประกอบด้วยธรรม 4 ประการนี้แล ย่อมเกิดในสวรรค์เหมือนเชิญมาประดิษ
ฐานไว้.
จบสัปปุริสสูตรที่ 9

10. สมณสูตร


ว่าด้วยสมณะ 4


[241] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมณะมีในธรรมวินัยนี้เท่านั้น สมณะ
ที่ 2 มีในธรรมวินัยนี้ สมณะที่ 3 มีในธรรมวินัยนี้ สมณะที่ 4 มีในธรรม
วินัยนี้ ลัทธิอื่นว่างจากสมณะทั้ง 4 เธอทั้งหลายจงบันลือสีหนาทโดยชอบอย่าง
นี้เถิด
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็สมณะเป็นไฉน ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เพราะสิ้น
สังโยชน์ 3 เป็นพระโสดาบัน มีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัส-
รู้ในเบื้องหน้า นี้สมณะ ที่ 1.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็สมณะที่ 2 เป็นไฉน ภิกษุในธรรมวินัยนี้
เพราะสิ้นสังโยชน์ 3 และเพราะราคะ โทสะ โมหะเบาบาง เป็นพระสกทาคา-
มี มาสู่โลกนี้คราวเดียวท่านั้นแล้วกระทำที่สุดทุกข์ได้ นี้สมณะที่ 2.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็สมณะที่ 3 เป็นไฉน คือภิกษุในธรรมวินัยนี้
เพราะโอรัมภาคิยสังโยชน์ 5 สิ้นไป เป็นอุปปาติกะ (เป็นพระอนาคามี) จัก
ปรินิพพานในภพนั้น มีอันไม่กลับจากโลกนั้นเป็นธรรมดา นี้สมณะที่ 3.