เมนู

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็กรรมทั้งดำทั้งขาว มีวิบากทั้งดำทั้งขาวเป็นไฉน
บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมปรุงแต่งกายสังขาร อันมีความเบียดเบียนบ้าง
ไม่มีความเบียดเบียนบ้าง ฯลฯ นี้เราเรียกว่า กรรมทั้งดำทั้งขาว มีวิบาก
ทั้งดำทั้งขาว.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็กรรมไม่ดำไม่ขาว มีวิบากไม่ดำไม่ขาว ย่อม
เป็นไปเพื่อความสิ้นกรรมเป็นไฉน เจตนาใดเพื่อละกรรมดำอันมีวิบากดำใน
บรรดากรรมเหล่านั้นก็ดี ฯลฯ นี้เราเรียกว่า กรรมไม่ดำไม่ขาว ย่อมเป็น
ไปเพื่อความสิ้นกรรม.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กรรม 4 ประการนี้แล เรากระทำให้แจ้งด้วย
ปัญญาอันยิ่งเองแล้วประกาศให้ทราบ.
จบอริยมัคคสูตรที่ 5

6. โพชฌังคสูตร


ว่าด้วยกรรมและวิบากของกรรม


[237] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กรรม 4 ประการนี้ เรากระทำให้แจ้ง
ด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว ประกาศให้ทราบ 4 ประการเป็นไฉน คือกรรมดำมี
วิบากดำก็มี กรรมขาวมีวิบากขาวก็มี กรรมทั้งดำทั้งขาวมีวิบากทั้งดำทั้งขาวก็มี
กรรมไม่ดำไม่ขาวมีวิบากไม่ดำไม่ขาว ย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้นกรรมก็มี.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็กรรมดำมีวิบากดำเป็นไฉน บุคคลบางคนใน
โลกนี้ ย่อมปรุงแต่งกายสังขารอันมีความเบียดเบียน ฯลฯ นี้เราเรียกว่า กรรม
ดำมีวิบากดำ.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็กรรมขาวมีวิบากขาวเป็นไฉน บุคคลบางคน
ในโลกนี้ย่อมปรุงแต่งกายสังขารอัน ไม่มีความเบียดเบียน ฯลฯ นี้เราเรียกว่า
กรรมขาวมีวิบากขาว.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็กรรมทั้งดำทั้งขาว มีวิบากทั้งดำทั้งขาวเป็น
ไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมปรุงแต่งกายสังขารอันมีความเบียดเบียนบ้าง
ไม่มีความเบียดเบียนบ้าง ฯลฯ นี้เราเรียกว่า กรรมทั้งดำทั้งขาว มีวิบากทั้ง
ดำทั้งขาว.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็กรรมไม่ดำไม่ขาว มีวิบากไม่ดำไม่ขาว ย่อม
เป็นไปเพื่อความสิ้นกรรมเป็นไฉน สัมมาทิฏฐิ ฯลฯ สัมมาสมาธิ นี้เราเรียก
ว่ากรรมไม่ดำไม่ขาว กรรมไม่ดำไม่ขาว มีวิบากไม่ดำไม่ขาว ย่อมเป็น
ไปเพื่อความสิ้นกรรม.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กรรม 4 ประการนี้แล เราทำให้แจ้งด้วยปัญญา
อันยิ่งเองแล้วประกาศให้ทราบ.
จบโพชฌังคสูตรที่ 6

7. สาวัชชสูตร


ว่าด้วยกรรมและวิบากของกรรม


[238] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กรรม 4 ประการนี้ เรากระทำให้แจ้ง
ด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้วประกาศให้ทราบ 4 ประการเป็นไฉน คือ กรรมดำมี
วิบากดำก็มี กรรมขาวมีวิบากขาวก็มี กรรมทั้งดำทั้งขาวมีวิบากทั้งดำทั้งขาวก็มี
กรรมไม่ดำไม่ขาวมีวิบากไม่ดำไม่ขาว ย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้นกรรมก็มี.