เมนู

สัปปุริสวรรควรรณนาที่ 1



อรรถกถาสิกขาปทสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในสิกขาปทสูตรที่ 1 แห่งปัณณาสก์ที่ 5 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า อสปฺปุริสํ ได้แก่ บุรุษลามก บุรุษเปล่า บุรุษหลง
บุรุษผู้ถูกทำให้บอดหนาด้วยอวิชชา. บทว่า อสปฺปุริสตรํ ได้แก่เกินอสัตบุรุษ
(อสัตบุรุษยิ่งกว่าอสัตบุรุษ) พึงทราบสัตบุรุษทั้งสองนอกนี้ โดยตรงกันข้าม
กับที่กล่าวแล้ว. คำที่เหลือในบทนี้ ง่ายทั้งนั้น.
จบสิกขาบทสูตรที่ 1
ใน 5 สูตรต่อจากนี้ก็เหมือนในสูตรนี้ จริงอยู่ในสูตรเหล่านั้นสูตรที่
1 ตรัสด้วยเวร 5 สูตรที่ 2 ตรัสด้วยอสัทธรรม สูตรที่ 3 ตรัสด้วยกาย-
ทวารวจีทวาร สูตรที่ ตรัสด้วยมโนทวาร สูตรที่ 5 ตรัสด้วยมิจฉัตตะ 8
สูตรที่ 6 ตรัสด้วยมิจฉัตตะ 10.

2. อัสสัทธสูตร


ว่าด้วยอสัตบุรุษและสัตบุรุษ


[202] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงอสัตบุรุษ และอสัตบุรุษ
ยิ่งกว่าอสัตบุรุษ กับอสัตบุรุษ และสัตบุรุษยิ่งกว่าสัตบุรุษ ท่านทั้งหลายจงฟัง
ทำในใจให้ดี เราจักกล่าว

ภิกษุทั้งหลายรับพระพุทธพจน์แล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อสัตบุรุษเป็นไฉน ? บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้ไม่มี
ศรัทธา ไม่มีหิริ ไม่มีโอตตัปปะ มีการสดับน้อย เกียจคร้านหลงลืมสติ
ไม่มีปัญญา นี้เรียกว่า อสัตบุรุษ.
อสัตบุรุษยิ่งกว่าอสัตบุรุษ เป็นไฉน ? บุคคลบางคนในโลกนี้ ตนเอง
เป็นคนไม่มีศรัทธา ไม่มีหิริ ไม่มีโอตตัปปะ มีการสดับน้อย เกียจคร้าน
หลงลืมสติ ไม่มีปัญญา ยังชักชวนผู้อื่นให้เป็นอย่างนั้นด้วย นี้เรียกว่า
อสัตบุรุษยิ่งกว่าอสัตบุรุษ.
สัตบุรุษ เป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้มีศรัทธา มีหิริ
มีโอตตัปปะ มีการสดับมาก มีความเพียร มีสติ มีปัญญา นี้เรียกว่า
สัตบุรุษ.
สัตบุรุษยิ่งกว่าสัตบุรุษเป็นไฉน ? บุคคลบางคนในโลกนี้ ตนเอง
เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศรัทธา มีหิริ มีโอตตัปปะ มีการสดับมาก มีความเพียร
มีสติ มีปัญญา ยังชักชวนผู้อื่นให้เป็นอย่างนั้นด้วย นี้เรียกว่า สัตบุรุษ
ยิ่งกว่าสัตบุรุษ.

จบอัสสัทธสูตรที่ 2

3. สัตตกัมมสูตร


ว่าด้วยอสัปบุรุษและอสัปบุรุษยิ่งกว่าอสัปบุรุษ


[203] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงอสัปบุรุษ อสัปบุรุษที่ยิ่งกว่า
อสัปบุรุษ สัปบุรุษ และสัปบุรุษที่ยิ่งกว่าสัปบุรุษ แก่เธอทั้งหลาย เธอทั้งหลาย
จงพึง ฯลฯ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็อสัปบุรุษเป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้
เป็นคนนักฆ่าสัตว์ มักลักทรัพย์ มักประพฤติผิดในกาม มักพูดเท็จ มักพูด
คำส่อเสียด มักพูดคำหยาบ มักพูดคำเพ้อเจ้อ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลนี้
เราเรียกว่า อสัปบุรุษ.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็อสัปบุรุษที่ยิ่งกว่าอสัปบุรุษเป็นไฉน บุคคล
บางคนในโลกนี้ เป็นผู้มักฆ่าสัตว์ด้วยตนเอง และชักชวนผู้อื่นในการฆ่าสัตว์
อีกด้วย เป็นผู้มักลักทรัพย์ด้วยตนเอง และชักชวนผู้อื่นให้ลักทรัพย์อีกด้วย
เป็นผู้มักประพฤติผิดในกามด้วยตนเอง และชักชวนผู้อื่นให้ประพฤติผิดในกาม
อีกด้วย เป็นผู้มักกล่าวเท็จด้วยตนเอง และชักชวนผู้อื่นให้กล่าวเท็จอีกด้วย
เป็นผู้มักกล่าวคำส่อเสียดด้วยตนเอง และชักชวนผู้อื่นให้กล่าวคำส่อเสียดอีกด้วย
เป็นผู้มักกล่าวคำหยาบด้วยตนเอง และชักชวนผู้อื่นให้กล่าวคำหยาบอีกด้วย
เป็นผู้มักกล่าวคำเพ้อเจ้อด้วยตนเอง และชักชวนผู้อื่นให้กล่าวคำเพ้อเจ้ออีกด้วย
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลนี้เราเรียกว่า อสัปบุรุษที่ยิ่งกว่าอสัปบุรุษ.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็สัปบุรุษเป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้
งดเว้นจากปาณาติบาต งดเว้นจากอทินนาทาน งดเว้นจากกาเมสุมิจฉาจาร
งดเว้นจากมุสาวาท งดเว้นจากปิสุณวาจา งดเว้นจากผรุสวาจา งดเว้นจาก
สัมผัปปลาปะ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลนี้เราเรียกว่า สัปบุรุษ.