เมนู

8. เทวทัตตสูตร


ว่าด้วยเรื่องพระเทวทัต


[68] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ที่ภูเขาคิชฌกูฏ
พระนครราชคฤห์ เมื่อพระเทวทัตหลีกไปแล้วไม่ช้า ก็ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย
ในที่นั้นมา มีพระพุทธดำรัสถึงพระเทวทัตว่า ภิกษุทั้งหลาย ลาภสักการะ
และความสรรเสริญเกิดมีแก่เทวทัต เพื่อทำลายล้างตน ลาภสักการะและความ
สรรเสริญเกิดมีแก่เทวทัต เพื่อความพินาศของตนเอง เปรียบเหมือนต้นกล้วย
ออกผลมากสำหรับฆ่าตัวเอง ออกผลมาก็เพื่อความพินาศของตัวเองฉันใด
ลาภสักการะและความสรรเสริญเกิดมีแก่เทวทัตก็เพื่อทำลายล้างตน ลาภสักการะ
และความสรรเสริญเกิดมีแก่เทวทัตก็เพื่อความพินาศ (ของตัวเอง) ฉันนั้น
เหมือนกัน เปรียบเหมือนต้นไผ่ออกขุยมาก็สำหรับฆ่าตัวเอง ออกขุยมาก็เพื่อ
ความพินาศของตัวเองฉันใด...ต้นอ้อออกขุยมาก็สำหรับฆ่าตัวเอง ออกขุยมา
ก็เพื่อความพินาศของตัวเองฉันใด... แม่ม้าอัสดรตั้งครรภ์ก็สำหรับฆ่าตัวเอง
ตั้งครรภ์ก็เพื่อความพินาศ (ของตัวเอง) ฉันใด ลาภสักการะและความสรรเสริญ
เกิดมีแก่เทวทัตก็เพื่อทำลายล้างตน ลาภสักการะและความสรรเสริญเกิดมีแก่
เทวทัตแก่เพื่อความพินาศ (ของตัวเอง) ฉันนั้นเหมือนกัน
ผลกล้วยฆ่าต้นกล้วย ขุยไผ่ฆ่าต้น
ไผ่ ขุยอ้อฆ่าต้นอ้อ ลูกม้าอัสดรฆ่าแม่น้ำ
อัสดรฉันใด สักการะก็ทำลายล้างคนชั่ว
เสียฉันนั้น.

จบเทวทัตตสูตรที่ 8

อรรถกถาเทวทัตตสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในเทวทัตตสูตรที่ 8 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า อจิรปกฺกนฺเต เทวทตฺเต ความว่า เมื่อเทวทัตทำสังฆเภท
แล้ว หลีกไปไม่นาน. บทว่า ปราภวาย ได้แก่ เพื่อความเสื่อม เพื่อความ
พินาศ. บทว่า อสฺสตรี ความว่า ม้าอัสดร เกิดในท้องของแม่ฬา. บทว่า
อตฺตวธาย คพฺภํ คณฺหาติ ความว่า คนทั้งหลายผสมแม่ฬานั้นกับพ่อม้า
แม่ม้าอัสดรนั้น ตั้งท้องแล้ว เมื่อถึงเวลาก็ออกลูกไม่ได้ ยืนเอาเท้าทั้ง 2
ตะกุยแผ่นดิน เมื่อเป็นเช่นนั้น เขาจึงผูกเท้าทั้ง 4 ของมันไว้ที่หลัก 4 หลัก
ผ่าท้องนำลูกออก มันจึงตาย ณ ที่นั้นเอง ด้วยเหตุนั้น จึงตรัสถึงแม่ม้าอัสดรนั้น.
จบอรรถกถาเทวทัตตสูตรที่ 8

9. ปธานสูตร


ว่าด้วยความเพียร 4


[69] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ปธาน (ความเพียร) 4 ประการนี้
ปธาน 4 คืออะไรบ้าง คือ สังวรปธาน (เพียรระวัง) ปหานปธาน
(เพียรละ) ภาวนาปธาน (เพียรบำเพ็ญ) อนุรักขนาปธาน (เพียรตาม
รักษาไว้)
ก็สังวรปธานเป็นไฉน ? ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ ย่อมยังฉันทะให้
เกิด พยายาม ทำความเพียร ประคองจิต ตั้งใจไว้ เพื่อยังอกุศลบาปธรรมที่
ยังไม่เกิดมิให้เกิดขึ้น นี้เรียกว่า สังวรปขาน.