เมนู

ไม่พึงไปถึงได้ด้วยการเดินทางไป แต่เราก็ไม่กล่าวว่า เมื่อยังไม่ถึงที่สุดโลก
แล้วจะทำที่สุดทุกข์ได้ เออ นี่แน่ะอาวุโส เราบัญญัติโลก และโลกสมุทัย
โลกนิโรธ โลกนิโรธคามินีปฏิปทา ในกเลวระ (ร่างกาย) อันยาวประมาณ
1 วา ซึ่งมีสัญญาและมีใจ.
ที่สุดโลก บุคคลไม่พึงถึงได้ด้วย
การเดินทางไป แต่ไหน ๆ มา แต่ว่ายัง
ไม่ถึงที่สุดโลกแล้วจะพ้นทุกข์ได้เป็นไม่มี
เพราะเหตุนั้น ผู้มีปัญญาดีรู้จักโลก ถึงที่
สุดโลก อยู่จบพรหมจรรย์แล้ว รู้ที่สุดโลก
สงบบาปแล้ว ย่อมไม่ปรารถนาทั้งโลกนี้
ทั้งโลกอื่น.

จบปฐมโรหิตัสสสูตรที่ 5

อรรถกถาปฐมโรหิตัสสสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในปฐมโรหิตัสสสูตรที่ 5 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า ยตฺถ ความว่า แผ่นดินให้โอกาสแห่งหนึ่งของโลกในจักรวาล.
บทว่า น จวติ น อุปปชฺชติ นี้ ทรงถือแล้วด้วยอำนาจจุติติและปฏิสนธิ
สืบๆกัน ไป. บทว่า คมเนน คือด้วยการใช้เท้าเดินไป. บทว่า โลกสฺส อนฺตํ
ความว่า พระศาสดาตรัสหมายถึงที่สุดของสังขารโลก. ในบทว่า ญาเตยฺยํ
เป็นต้น ความว่า อันบุคคลพึงรู้ พึงเห็น พึงถึง. ด้วยเหตุนั้น เทพบุตร

ทูลถามที่สุดของโลกในจักรวาล พระศาสดาก็ตรัสตอบที่สุดของสังขารโลก.
ฝ่ายเทพบุตรนั้นร่าเริงในปัญหาว่า การกล่าวแก้ของพระศาสดาสมกับปัญหา
ของตน ดังนี้ จึงทูลว่า อจฺฉริยํ ดังนี้เป็นต้น.
บทว่า ทฬฺหธมฺโม ได้แก่ ผู้สอดธนูไว้มั่น คือประกอบด้วยธนู
มีขนาดเยี่ยม. บทว่า ธนุคฺคโห ได้แก่อาจารย์ผู้ฝึกหัดธนู. บทว่า สุสิกฺขิโต
คือ ผู้ได้ศึกษาธนูศิลป์มา 12 ปี. บทว่า กตหตฺโถ ความว่า มีฝีมือ
ชำนาญแล้ว โดยสามารถยิงปลายขนเนื้อทราย ในระยะประมาณอุสภะหนึ่งได้.
บทว่า กตูปาสโน ได้แก่ ยิงธนูชำนาญได้แสดง (ประลอง) ศิลปธนูมาแล้ว.
บทว่า อสเนน คือลูกธนู. บทว่า อติปาเตยฺย คือผ่านไป. เทพบุตร
แสดงสมบัติ คือความเร็วของตนว่า เราจักผ่านจักรวาลหนึ่งไปเท่ากับลูกธนู
นั้น ผ่านเงาตาลไป.
บทว่า ปุรตฺถิมา สมุทฺทา ปจฺฉิโม ความว่า เทวบุตรกล่าวว่า การ
ย่างเท้าก้าวหนึ่งไปได้ในที่ไกล เหมือนสมุทรเบื้องตะวันตกไกลจากสมุทรเบื้อง
ตะวันออกฉะนั้น . ได้ยินว่า ฤษีนั้น ยืนอยู่ที่ขอบปากแห่งจักรวาลเบื้อง
ตะวันออก เหยียดเท้าผ่านขอบปากแห่งจักรวาลเบื้องตะวันตก เหยียดเท้า
ที่สองไปอีก ก็ผ่านขอบปากจักรวาลอื่น. บทว่า อิจฺฉาคตํ แปลว่า ความ
ปรารถนานั้นเอง. บทว่า อญฺญตฺเรว คือ ท่านแสดงความไม่ชักช้า. ได้ยินว่า
ในเวลาภิกขาจาร ฤษีนั้นสีไม้สีฟันนาคลดา ล้างหน้าในสระอโนดาต เมื่อได้
เวลาก็เที่ยวบิณฑบาตในอุตตรกุรุทวีป นั่งที่ขอบปากจักรวาล ทำภัตกิจ. หยุด
พัก ณ ที่นั้นครู่หนึ่ง ก็โลดแล่นไปอีก. บทว่า วสฺสตายุโภ ความว่า ยุคนั้น
เป็นสมัยที่คนมีอายุยืน. ส่วนฤษีนี้เริ่มเดินเมื่ออายุเหลือ 100 ปี. บทว่า
วสฺสสตชีวี ความว่า เขามีชีวิตอยู่ 100 ปี โดยไม่มีอันตราย. บทว่า

อนฺตราเยว กาลกโต ความว่า ยังไม่ถึงที่สุดแห่งโลกในจักรวาล. ก็ตาย
เสียก่อนในระหว่าง. แต่เขาทำกาละในที่นั้นแล้ว จึงมาเกิดในจักรวาลนี้.
บทว่า อปฺปตฺวา ความว่า ยังไม่ถึงที่สุดแห่งสังขารโลก. บทว่า
ทุกฺขสฺส คือ วัฏฏทุกข์. บทว่า อนฺตกิริยํ คือ ทำที่สุด. บทว่า กเฬวเร
คือในอัตภาพ. บทว่า สสญฺญมฺหิ สมนเก คือ มีสัญญามีใจ. บทว่า
โลกํ คือ ทุกขสัจ. บทว่า โลกสมุทยํ คือ สมุทยสัจ. บทว่า โลกนิโรธํ
คือ นิโรธสัจ. บทว่า ปฏิปทํ คือ มรรคสัจ. พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรง
แสดงว่า ผู้มีอายุ เราย่อมไม่บัญญัติสัจจะ 4 เหล่านี้ลงในหญ้าและไม้เป็นต้น
แต่เราย่อมบัญญัติลงในกายนี้ที่มีมหาภูต 4 เท่านั้น. บทว่า สมิตาวี ได้แก่
ผู้มีบาปสงบแล้ว . บทว่า นาสึสติ คือ ย่อมไม่ปรารถนา.
จบอรถกถาปฐมโรหิตัสสสูตรที่ 5

6. ทุติยโรหิตัสสสูตร


ว่าด้วยโรหิตัสสเทวบุตรทูลถามปัญหา


[46] สูตรนี้เนื้อความเหมือนสูตรก่อนทุกอย่าง ต่างแต่ว่าสูตรนี้
เป็นคำที่พระองค์ตรัสเล่าให้ภิกษุทั้งหลายพึงว่า เมื่อคืนนี้มีเทวบุตรชื่อนั้นมา
เฝ้าแล้ว กราบทูลถามอย่างนั้น ๆ นิคมคาถาก็อย่างเดียวกัน .
จบทุติยโรหิตัสสสูตรที่ 6
ทุติยโรหิตัสสสูตรที่ 6 ง่ายทั้งนั้น.