เมนู

ในยัญใด มีแพะ โค และสัตว์
ต่างชนิดถูกปลิดชีพ ท่านผู้ดำเนินทาง
ชอบ ท่านผู้มหาฤษี ไม่ข้องแวะยัญนั้น.
ส่วนยัญเหล่าใดไม่มีการอันจะต้อง
เป็นธุระริเริ่มมาก ที่บูชาตามสกุลเป็นนิตย์
ซึ่งเป็นยัญที่ แพะ ใด และสัตว์ต่างชนิด
ไม่ถูกปลิดชีพ ท่านผู้ดำเนินทางชอบ
ท่านผู้เป็นมหาฤษีย่อมสรรเสริญยัญนั้น.
ผู้มีปัญญาพึงบูชายัญอย่างนี้ ยัญนี้มี
ผลมาก เพราะเมื่อบุคคลบูชายัญอย่างนี้
ย่อมมีแต่ความดีไม่มีบาป ยัญก็มีผล
ไพบูลย์ ทั้งเทวดาก็เลื่อมใส.

จบอุชชยสูตรที่ 9

อรรถกถาอุชชยสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในอุชชยสูตรที่ 9 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า สํฆาตํ อาปชฺชนฺติ ความว่า สัตว์ทั้งหลายย่อมถูกฆ่า
คือ ตาย. บทว่า นิจฺจทานํ ได้แก่ สลากภัต. บทว่า อนุกุลยญฺญํ
ความว่า ยัญคือทานอันบุคคลพึงบูชา คือ พึงให้ ด้วยอำนาจสืบทอดกันมา
ตามตระกูลอย่างนี้ เพราะพ่อปู่บรรพบุรุษของเราทั้งหลายให้กันมาแล้ว .

ในบทว่า อสฺสเมธํ เป็นต้น พึงทราบวินิจฉัยดังนี้ ยัญชื่อว่า
อัสสเมธ เพราะในยัญนี้เขาฆ่าม้า คำนั้นเป็นชื่อของยัญ ที่จะอำนวยให้สมบัติ
ทุกอย่างไม่เหลือ ยกเว้นแผ่นดินและคนทั้งหลาย ซึ่งมีหลักบูชา 21 หลัก
ที่พึงบูชาด้วยปริยัญสอง. ยัญชื่อว่า ปุริสเมธ เพราะในยัญนี้เขาฆ่าคน คำนั้น
เป็นชื่อของยัญที่จะอำนวยให้สมบัติที่กล่าวแล้ว ในอัสสเมธพร้อมด้วยแผ่นดิน
ซึ่งพึงบูชาด้วยปริยัญสี่. ชื่อว่า สัมมาปาสะ เพราะในยัญนี้เขาโยนบ่วง
แอกไป คำนั้นเป็นชื่อของยัญทั้งหมดที่เขาทำแท่นบูชาโยนบ่วง ตรงโอกาสที่
บ่วงแอกนั้นตก แล้วเดินถอยกลับตั้งแต่โอกาสที่ดำลงในแม่น้ำสรัสวดี พึงบูชา
ด้วยหลักเป็นต้นที่ยกไปได้ทุก ๆ วัน. ชื่อว่า วาชเปยยะ เพราะในบัดนี้
เขาดื่มวาชะ คำนั้นเป็นชื่อของยัญที่อำนวยให้สมบัติ 17 หมวด ซึ่งมีหลัก
บูชาทำด้วยไม้มะตูม ที่พึงบูชาด้วยสัตว์เลี้ยง 17 ชนิด ด้วยปริยัญหนึ่ง.
ชื่อว่า นิรัคคฬะ เพราะในยัญนี้ไม่มีลิ่มสลัก คำนั้น เป็นชื่อของยัญอันกำหนด
ไว้ในอัสสเมธ เรียกชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า สรรพเมธ ซึ่งอำนวยให้สมบัติที่กล่าว
แล้วในอัสสเมธพร้อมด้วย แผ่นดินและด้วยคนทั้งหลาย ที่พึงบูชาด้วยปริยัญเก้า.
บทว่า มหารมฺภา ได้แก่ มีกิจมาก มีกรณียะมาก อนึ่ง ชื่อว่า
มีการริเริ่มใหญ่ ก็เพราะการริเริ่มด้วยปาณาติบาตมาก. ในบทว่า น เต
โหนฺติ มหปฺผลา
นี้ ท่านสรุปผลของยัญที่มีส่วนเหลือไว้ ในความหมายว่า
ไม่มีส่วนเหลือ เพราะฉะนั้น จึงมีอธิบายว่า ว่าด้วยผลที่น่าปรารถนา ก็ไม่มี
ผลเลย. ก็ข้อนี้ ท่านกล่าวหมายถึงการริเริ่มด้วยปาณาติบาตนั้นเอง. ส่วน
ทานใดที่เขาให้ในระหว่างในยัญนั้น ทานนั้น ย่อมมีผลไม่มาก เพราะถูกการ
ริเริ่มนี้ เข้าไปกำจัดเสียแล้ว อธิบายว่า มีผลน้อย. บทว่า หญฺญเร คือ

ย่อมฆ่า. บทว่า ยชนฺติ อนุกุลํ สทา ความว่า ชนเหล่าใดย่อมบูชายัญ
ตามตระกูล แม้พวกคนเหล่านั้นเกิดในภายหลัง ก็ยังบูชาตาม เพราะบรรพบุรุษ
ทั้งหลายได้บูชากันมาแล้ว. บทว่า เสยฺโย โหติ แปลว่า ย่อมวิเศษ
แน่แท้. บทว่า น ปาปิโย ได้แก่ ไม่เลวทรามอะไรเลย.
จบอรรถกถาอุชชยสูตรที่ 9

10. อุทายิสูตร


ว่าด้วยอุทายิพราหมณ์ทูลถามปัญหา


[40] ความเหมือนสูตรก่อน ต่างแต่สูตรนี้พราหมณ์ชื่ออุทายิมาเฝ้า
และมีนิคมคาถาดังนี้
พรหมจารีทั้งหลาย ผู้สำรวนแล้ว
ย่อมสรรเสริญยัญ (คือทาน) ที่ไม่มีการ
อันจะต้องเป็นธุระริเริ่มมา จัดทำให้เป็น
กัปปิยะ (คือให้เป็นของควร ปราศจาก
การเบียดเบียนสัตว์) ตามกาล เช่นนั้น.
อนึ่งพระพุทธเจ้าทั้งหลายผู้มีหลังคา
(คือกิเลส) อันเปิดแล้ว ผู้ก้าวล่วงแล้วซึ่ง
ตระกูลและคติ ผู้ฉลาดในเรื่องบุญ ทรง
สรรเสริญยัญอันนั้น
ในยัญ (คือการบริจาคทานปกติ)
ก็ดี ในศราทธะ (คือทำบุญอุทิศผู้ตาย)