เมนู

พระสูตรที่ไม่จัดเข้าในปัณณาสก์



[425] 179. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม 2 อย่างนี้ 2 อย่าง
เป็นไฉน คือ ความโกรธ 1 ความผูกโกรธไว้ 1... ความลบหลู่คุณท่าน 1
ความตีเสมอ 1... ความริษยา 1 ความตระหนี่ 1... มายา 1 โอ้อวด 1...
ความไม่ละอาย 1 ความไม่เกรงกลัว 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม 2
อย่างนี้แล.
[426] 180. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม 2 อย่างนี้ 2 อย่าง
เป็นไฉน คือ ความไม่โกรธ 1 ความไม่ผูกโกรธไว้ 1 ... ความไม่
ลบหลู่คุณท่าน 1 ความไม่ตีเสมอ 1 ... ความไม่ริษยา 1 ความไม่
ตระหนี่ 1 ... ความไม่มายา 1 ความไม่โอ้อวด 1 ... หิริ 1 โอตัปปะ 1
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม 2 อย่างนี้แล.
[427 ] 181. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม
2 ประการ ย่อมอยู่เป็นทุกข์ ธรรม 2 ประการเป็นไฉน คือ ความ
โกรธ 1 ความผูกโกรธไว้ 1... ความลบหลู่คุณท่าน 1 ความตีเสมอ 1...
ความริษยา 1 ความตระหนี่ 1... มายา 1 โอ้อวด 1... ความไม่ละอาย 1
ความไม่เกรงกลัว 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม
2 ประการนี้แล ย่อมอยู่เป็นทุกข์.
[428] 182. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม
2 ประการ ย่อมอยู่เป็นสุข ธรรม 2 ประการเป็นไฉน คือ ความไม่
โกรธ 1 ความไม่ผูกโกรธไว้ 1 ... ความไม่ลบหลู่คุณท่าน 1 ความไม่
ตีเสมอ . ... ความไม่ริษยา 1 ความไม่ตระหนี่ 1 ... ความไม่มายา 1

ความไม่โอ้อวด 1 ... หิริ 1 โอตตัปปะ 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล
ผู้ประกอยด้วยธรรม 2 ประการนี้แล ย่อมอยู่เป็นสุข.
[429] 183. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม 2 อย่างนี้ เป็นไป
เพื่อความเสื่อมแก่ภิกษุที่ยังเป็นเสขะ ธรรม 2 อย่างเป็นไฉน คือ ความ
โกรธ 1 ความผูกโกรธไว้ 1 ... ความลบหลู่คุณท่าน 1 ความตีเสมอ
1 ... ความริษยา 1 ความตระหนี่ 1 ... มายา 1 โอ้อวด 1 ... ความ
ไม่ละอาย 1 ความไม่เกรงกลัว 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม 2 อย่าง
นี้แล ย่อมเป็นไปเพื่อความเสื่อมแก่ภิกษุที่ยังเป็นเสขะ.
[430] 184. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม 2 อย่างนี้ ย่อม
เป็นไปเพื่อความไม่เสื่อมแก่ภิกษุที่ยังเป็นเสขะ ธรรม 2 อย่างเป็นไฉน
คือ ความไม่โกรธ 1 ความไม่ผูกโกรธไว้ 1 ... ความไม่ลบหลู่คุณ
ท่าน 1 ความไม่ตีเสมอ 1 ... ความไม่ริษยา 1... ความไม่ตระหนี่ 1 ...
ความไม่มายา ความไม่โอ้อวด 1 ... หิริ 1 โอตัตปปะ 1 ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย ธรรม 2 อย่างนี้แล ย่อมไม่เป็นไปเพื่อความเสื่อมแก่ภิกษุที่
ยังเป็นเสขะ.
[431] 185. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม
2 ประการ ตั้งอยู่ในนรกเหมือนดังถูกนำมาฝังไว้ ธรรม 2 ประการเป็น
ไฉน คือ ความโกรธ 1 ความผูก โกรธไว้ 1... ความลบหลู่คุณท่าน 1
ความตีเสมอ 1 ... ความริษยา 1 ความตระหนี่ 1 ... มายา 1 โอ้อวด
1... ความไม่ละอาย 1 ความไม่เกรงกลัว 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล
ผู้ประกอบด้วยธรรม 2 ประการนี้แล ตั้งอยู่ในนรกเหมือนถูกนำมาฝังไว้.

[432] 186. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม
2 ประการ ตั้งอยู่ในสวรรค์เหมือนดังถูกนำมาตั้งลงไว้ ธรรม 2 ประ-
การเป็นไฉน คือ ความไม่โกรธ 1 ความไม่ผูกโกรธไว้ .... ความไม่
ลบหลู่คุณท่าน 1 ความไม่ตีเสมอ 1... ความไม่ริษยา 1 ความไม่
ตระหนี่ 1... ไม่มายา 1 ไม่โอ้อวด 1... หิริ 1 โอตัตปปะ 1 ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม 2 อย่างนี้แล ตั้งอยู่ในสวรรค์
เหมือนถูกนำมาตั้งลงไว้.
[433] 187. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้
ประกอบด้วยธรรม 2 อย่าง เมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ
วินิบาต นรก ธรรม 2 อย่างเป็นไฉน คือ ความโกรธ 1 ความผูก
โกรธไว้ 1 ... ความลบหลู่คุณท่าน 1 ความตีเสมอ 1 ... ความริษยา 1
ความตระหนี่ 1... มายา 1 โอ้อวด 1 ... ความไม่ละอาย 1 ความ
ไม่เกรงกลัว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ประกอบ
ด้วยธรรม 2 อย่างนี้แล เมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ
วินิบาต นรก.
[434] 188. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้
ประกอบด้วยธรรม 2 อย่าง เมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
ธรรม 2 อย่างเป็นไฉน คือความไม่โกรธ 1 ความไม่ผูกโกรธไว้ 1....
ความไม่ลบหลู่คุณท่าน 1 ความไม่ตีเสมอ 1 ... ความไม่ริษยา 1 ความ
ไม่ตระหนี่ 1 ... ไม่มายา 1 ไม่โอ้อวด 1.... หิริ 1 โอตตัปปะ 1
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ ประกอบด้วยธรรม 2 อย่าง
นี้แล เมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์.

[435] 189. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม 2 อย่างนี้เป็น
อกุศล... ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม 2 อย่างนี้เป็นกุศล... ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย ธรรม 2 อย่างนี้มีโทษ... ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม 2
อย่างนี้ไม่มีโทษ... ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม 2 อย่างนี้มีทุกข์เป็น
กำไร... ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม 2 อย่างนี้มีสุขเป็นกำไร... ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาน ธรรม 2 อย่างนี้มีทุกข์เป็นวิบาก... ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ธรรม 2 อย่างนี้มีสุขเป็นวิบาก... ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม 2 อย่างนี้
เป็นไปกับด้วยความเบียดเบียน... ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม 2 อย่างนี้
ไม่มีความเบียดเบียน ธรรม 2 อย่างเป็นไฉน คือ ความไม่โกรธ 1
ความไม่ผูกโกรธไว้ 1... ความไม่ลบหลู่คุณท่าน 1 ความไม่ตีเสมอ 1...
ความไม่ริษยา 1 ความไม่ตระหนี่ 1... ไม่มายา 1 ไม่โอ้อวด 1...
หิริ 1 โอตตัปปะ 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม 2 อย่างนี้แล ไม่มี
ความเบียดเบียน.
[436] 190. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์
2 อย่างนี้ พระตถาคตจึงทรงบัญญัติสิกขาบทแก่สาวก อำนาจประโยชน์
2 อย่างเป็นไฉน คือ เพื่อความดีแห่งสงฆ์ 1 เพื่อความสำราญแห่ง
สงฆ์ 1.... เพื่อความข่มบุคคลผู้เก้อยาก 1 เพื่ออยู่สำราญแห่งภิกษุผู้มีศีล
เป็นที่รัก 1.... เพื่อป้องกันอาสวะอันจักบังเกิดในปัจจุบัน 2 เพื่อกำจัด
อาสวะอันจักบังเกิดในอนาคต 1... เพื่อป้องกันเวรอันจักบังเกิดในปัจจุบัน 1
เพื่อกำจัดเวรอันจักบังเกิดในอนาคต 1... เพื่อป้องกันโทษอันจักบังเกิด
ในปัจจุบัน 1 เพื่อกำจัดโทษอันจักบังเกิดในอนาคต 1... เพื่อป้องกันภัย
อันจักบังเกิดในปัจจุบัน 1 เพื่อกำจัดภัยอันจักบังเกิดในอนาคต 1 ...

เพื่อป้องกันอกุศลธรรมอันจักบังเกิดในปัจจุบัน 1 เพื่อกำจัดอกุศลธรรม
อันจักบังเกิดในอนาคต 1 ... เพื่ออนุเคราะห์แก่คฤหัสถ์ 1 เพื่อเข้าไป
ตัดรอนฝักฝ่ายของภิกษุผู้มีความปรารถนาลามก 1 ... เพื่อความเลื่อมใส
ของผู้ที่ยังไม่เลื่อมใส 1 เพื่อความเลื่อมใสยิ่งของผู้ที่เลื่อมใสแล้ว 1 ...
เพื่อความตั้งมั่นแห่งพระสัทธรรม 1 เพื่ออนุเคราะห์พระวินัย 1 ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์ 2 อย่างนี้แล พระตถาคต
จึงได้ทรงบัญญัติสิกขาบทแก่สาวก.
[437] 191. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์
2 อย่างนี้ พระตถาคตจึงทรงบัญญัติปาติโมกข์แก่สาวก... ทรงบัญญัติ
ปาติโมกขุทเทส... ทรงบัญญัติการตั้งปาติโมกข์... ทรงบัญญัติปวารณา...
ทรงบัญญัติการตั้งปวารณา... ทรงบัญญัติตัชชนียกรรม... ทรงบัญญัติ
นิยัสสกรรม... ทรงบัญญัติปัพพาชนียกรรม... ทรงบัญญัติปฎิสารณี-
กรรม... ทรงบัญญัติอุกเขปนียกรรม... ทรงบัญญัติการให้ปริวาส...
ทรงบัญญัติการชักเข้าหาอาบัติเดิม... ทรงบัญญัติการให้มานัต... ทรง
บัญญัติอัพภาน... ทรงบัญญัติการเรียกเข้าหมู่... ทรงบัญญัติการขับออก
จากหมู่... ทรงบัญญัติการอุปสมบท... ทรงบัญญัติญัตติกรรม... ทรง
บัญญัติญัตติทุติยกรรม... ทรงบัญญัติติจตุตถกรรม ... ทรงบัญญัติ
สิกขาบทที่ยังไม่ได้ทรงบัญญัติ ... ทรงบัญญัติเพิ่มเติมในสิกขาบทที่ทรง
บัญญัติไว้แล้ว... ทรงบัญญัติสัมมุขาวินัย... ทรงบัญญัติสติวินัย... ทรง
บัญญัติอมุฬหวินัย... ทรงบัญญัติปฏิญญาตกรณะ ... ทรงบัญญัติเยภุยย-
สิกา... ทรงบัญญัติตัสสปาปิยสิกา... ทรงบัญญัติติณวัตถารกวินัย อำนาจ
ประโยชน์ 2 อย่างเป็นไฉน คือ เพื่อความดีแห่งสงฆ์ 1 เพื่อความ

สำราญแห่งสงฆ์ 1... เพื่อความข่มขู่บุคคลผู้เก้อยาก 1 เพื่ออยู่สำราญ
แห่งภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รัก 1... เพื่อป้องกันอาสวะอันจักบังเกิดในปัจจุบัน 1
เพื่อกำจัดอาสวะอันจักบังเกิดในอนาคต 1... เพื่อป้องกันเวรอันจักบังเกิด
ในปัจจุบัน 1 เพื่อกำจัดเวรอันจักบังเกิดในอนาคต 1... เพื่อป้องกัน
โทษอันจักบังเกิดในปัจจุบัน 1 เพื่อกำจัด โทษอันจักบังเกิดในอนาคต 1...
เพื่อป้องกันภัยอันจักบังเกิดในปัจจุบัน 1 เพื่อกำจัดภัยอันจักบังเกิด
ในอนาคต 1... เพื่อป้องกันอกุศลธรรมอันจักบังเกิดในปัจจุบัน 1
เพื่อกำจัดอกุศลธรรมอันจักบังเกิดในอนาคต 1 ... เพื่ออนุเคราะห์แก่
คฤหัสถ์ 1 เพื่อเข้าไปตัดรอนฝักฝ่ายของภิกษุที่มีความปรารถนาลามก 1...
เพื่อความเลื่อมใสของผู้ที่ยังไม่เลื่อมใส 1 เพื่อความเลื่อมใสยิ่งของผู้ที่
เลื่อมใสแล้ว 1... เพื่อความตั้งมั่นแห่งพระสัทธรรม 1 เพื่ออนุเคราะห์
พระวินัย 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์ 2 อย่าง
นี้แล พระตถาคตจึงทรงบัญญัติติณวัตถารกวินัยไว้แก่สาวก.
[438] 192. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพื่อรู้ด้วยปัญญาอันยิ่งซึ่ง
ราคะ จึงควรอบรมธรรม 2 อย่าง ธรรม 2 อย่างเป็นไฉน คือ สมถะ 1
วิปัสสนา 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพื่อรู้ด้วยปัญญาอันยิ่งซึ่งราคะ จึงควร
อบรมธรรม 2 อย่างนี้แล ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพื่อกำหนดรู้ราคะ...
เพื่อความสิ้นไปรอบแห่งราคะ.... เพื่อละราคะเด็ดขาด... เพื่อความสิ้นไป
แห่งราคะ.... เพื่อความเสื่อมไปแห่งราคะ... เพื่อความสำรอกราคะ ...
เพื่อความดับสนิทแห่งราคะ.... เพื่อสละราคะ.... เพื่อปล่อยราคะเสีย จึง
ควรอบรมธรรม 2 อย่างนี้แล.
[439] 193. เพื่อรู้ด้วยปัญญาอันยิ่ง... เพื่อกำหนดรู้... เพื่อ

ความสิ้นไปรอบ... เพื่อสละ... เพื่อความสิ้นไป... เพื่อความเสื่อมไป
เพื่อความสำรอก... เพื่อความดับสนิท... เพื่อสละ.... เพื่อปล่อยวางซึ่ง
โทสะ... ซึ่งโมหะ... ซึ่งความโกรธ... ความผูกโกรธไว้... ซึ่งการ
ลบหลู่คุณท่าน... ซึ่งการดีเสมอ... ซึ่งความริษยา... ซึ่งความตระหนี่
ซึ่งมายา... ซึ่งความโอ้อวด... ซึ่งความหัวดื้อ... ซึ่งความแข่งดี...
ซึ่งการถือตัว... ซึ่งการดูหมิ่นท่าน... ซึ่งความมัวเมา ... ซึ่งความ
ประมาท... จึงควรอบรมธรรม 2 อย่างนี้แล.
จบทุกนิบาต

อรรถกถาแห่งพระสูตรที่ไม่สงเคราะห์ลงในปัณณาสก์1



(ข้อ 425 - 439)



ในบทอื่น ๆ จากนี้ โกธะ มีโกรธเป็นลักษณะ อุปนาหะ
มีคุมแค้นเป็นลักษณะ มักขะ มีลบหลู่การกระทำที่ท่านทำดีแล้วเป็น
ลักษณะ ปฬาสะ มีเทียบคู่เป็นลักษณะ อิสสา มีริษยาเป็นลักษณะ
ความเป็นผู้ตระหนี่ ชื่อว่า มัจฉริยะ ทั้งหมดนั้น มีเห็นแก่ตัวเป็นลักษณะ
มายา มีปกปิดสิ่งที่ทำไว้เป็นลักษณะ สาไถย มีตีสองหน้าเป็นลักษณะ
อาการคือความไม่ละอาย ชื่อว่า อหิริกะ อาการคือความไม่กลัวแต่ความ
ติเตียน ชื่อว่า อโนตตัปปะ ธรรมมีอักโกธะเป็นต้น พึงทราบว่าตรง
กันข้ามกับอุปกิเลสเหล่านั้น.
บทว่า เสกฺขสฺส ภิกฺขุโน ความว่า ธรรม 2 อย่าง ย่อมเป็นไป
เพื่อความเสื่อมจากคุณสูง ๆ ขึ้นไป ของพระเสขะทั้ง 7 จำพวก แต่ย่อม

1. บาลีข้อ 425 - 438 อรรถกถาแก้รวม ๆ กันไป ไม่ได้แบ่งเป็นสูตร.