เมนู

พระสุตตันตปิฎก



อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต



เล่มที่ 1 ภาคที่ 1



ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


เอกธัมมาทิปาลิ


บาลีแห่งเอกธรรมเป็นต้น



รูปาทิวรรคที่ 1



ว่าด้วยสิ่งที่ครอบงำจิตใจบุรุษและสตรี



[1] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน
อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี. กรุงสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว พระผู้มี
พระภาคเจ้าได้ตรัสว่า
[2] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นรูปอื่นแม้อย่างหนึ่ง
ที่จะครอบงำจิตของบุรุษตั้งอยู่เหมือนรูปสตรีเลย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย

รูปสตรีย่อมครอบงำจิตของบุรุษตั้งอยู่.
[3] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นเสียงอื่นแม้อย่างหนึ่ง
ที่จะครอบงำจิตของบุรุษตั้งอยู่เหมือนเสียงสตรีเลย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เสียงสตรีย่อมครอบงำจิตของบุรุษตั้งอยู่.
[4] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นกลิ่นอื่นแม้อย่างหนึ่ง
ที่จะครอบงำจิตของบุรุษตั้งอยู่เหมือนกลิ่นสตรีเลย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
กลิ่นสตรีย่อมครอบงำจิตของบุรุษตั้งอยู่.
[5] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นรสอื่นแม้อย่างหนึ่ง
ที่จะครอบงำจิตของบุรุษตั้งอยู่เหมือนรสสตรีเลย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
รสสตรีย่อมครอบงำจิตของบุรุษตั้งอยู่.
[6] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นโผฎฐัพพะอื่นแม้
อย่างหนึ่ง ที่จะครอบงำจิตของบุรุษตั้งอยู่เหมือนโผฎฐัพพะสตรีเลย
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โผฎฐัพพะสตรีย่อมครอบงำจิตของบุรุษตั้งอยู่.
[7] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นรูปอื่นแม้อย่างหนึ่ง
ที่จะครอบงำจิตของสตรีตั้งอยู่เหมือนรูปบุรุษเลย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
รูปบุรุษย่อมครอบงำจิตของสตรีตั้งอยู่.
[8] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นเสียงอื่นแม้อย่างหนึ่ง
ที่จะครอบงำจิตของสตรีตั้งอยู่เหมือนเสียงบุรุษเลย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เสียงบุรุษย่อมครอบงำจิตของสตรีตั้งอยู่.

[9] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นกลิ่นอื่นแม้อย่างหนึ่ง
ที่จะครอบงำจิตของสตรีตั้งอยู่เหมือนกลิ่นบุรุษเลย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
กลิ่นบุรุษย่อมครอบงำจิตของสตรีตั้งอยู่.
[10] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นรสอื่นแม้อย่างหนึ่ง
ที่จะครอบงำจิตของสตรีตั้งอยู่เหมือนรสบุรุษเลย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
รสบุรุษย่อมครอบงำจิตของสตรีตั้งอยู่.
[11] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นโผฎฐัพพะอื่นแม้
อย่างหนึ่ง ที่จะครอบงำจิตของสตรีตั้งอยู่เหมือนโผฎฐัพพะบุรุษเลย
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โผฎฐัพพะของบุรุษย่อมครอบงำจิตของสตรีตั้งอยู่.

จบ รูปาทิวรรคที่ 1

มโนรถปูรณี อรรถกถาอังคุตตรนิกาย



อรรถกถาเอกนิบาต



อารัมภกถา



ข้าพเจ้า (พระพุทธโฆสาจารย์) ขอไหว้
พระสุคต ผู้หลุดพ้นจากคติ ผู้มีพระทัยเยือกเย็น
ด้วยพระกรุณา ผู้มีมืดคือโมหะ อันแสงสว่าง
แห่งปัญญาขจัดแล้ว ผู้เป็นครูของชาวโลก
พร้อมทั้งมนุษย์และเทวดา
พระพุทธเจ้าทรงเจริญและทำให้แจ้งคุณ
เครื่องเป็นพระพุทธเจ้า เข้าถึงธรรมใดอัน
ปราศจากมลทิน ข้าพเจ้าขอไหว้ธรรมนั้น อัน
ยอดเยี่ยม.
ข้าพเจ้าขอไหว้ ด้วยเศียรเกล้าซึ่งพระ
อริยสงฆ์ทั้ง 8 ผู้เป็นโอรสของพระตถาคตเจ้า
ผู้ย่ำยีเสยซึ่งกองทัพมาร.

บุญใดสำเร็จด้วยการไหว้พระรัตนตรัย ของข้าพเจ้าผู้มีจิต
เลื่อมใสดังกล่าวมาฉะนี้ ข้าพเจ้าเป็นผู้ที่อานุภาพแห่งบุญนั้น ช่วยขจัด
อันตรายแล้ว จักถอดภาษาสีหลออกจากคัมภีร์อรรถกถา ซึ่งพระ

อรหันต์ผู้เชี่ยวชาญ 500 องค์สังคายนามาแต่ต้น และสังคายนาต่อ ๆ
มา แน่ภายหลัง ท่านพระมหินทเถระนำนายังเกาะสีหล จัดทำไว้เป็น
ภาษาสีหล เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ชาวเกาะ แล้วยกขึ้นสู่ภาษาที่น่า
รื่นรมย์ ควรแก่นัยแต่งพระบาลี คือทำเป็นภาษามคธ ไม่ให้ขัดแย้ง
ลัทธิสมัยซึ่งปราศจากโทษของเหล่าพระเถระประทีปแห่งเถรวงศ์ ผู้อยู่
ในมหาวิหาร ซึ่งมีวินิจฉัยละเอียดดี ละเว้นข้อความความที่ซ้ำซาก
เสียแล้ว ประกาศเนื้อความแต่งคัมภีร์อังคุตตรนิกายอันประเสริฐ อัน
ประดับด้วยเอกนิบาต ทุกนิบาต ติกนิบาต เป็นต้น เพื่อให้อรรถ
แจ่มแจ้ง สำหรับให้เกิดปฏิภาณอันวิจิตร แก่เหล่าพระธรรมกถึกที่ดี
ซึ่งข้าพเจ้าเมื่อกล่าวเนื้อความ แห่งคัมภีร์ทีฆนิกาย และคัมภีร์มัชณิม
นิกาย ภายหลังจึงพรรณนาเรื่องราวของพระนครทั้งหลาย มีกรุงสาวัตถี
เป็นต้น ให้สาธุชนยินดี และเพื่อให้พระธรรมตั้งอยู่ยั่งยืน ได้ยินว่า
เรื่องเหล่าใด ที่กล่าวไว้ในคัมภีร์ทั้งสองนั้น (ทีฆ, มัชฌิม) พิสดารใน
คัมภีร์อังคุตตรนิกายนี้ ข้าพเจ้าจักไม่กล่าวเรื่องเหล่านั้นให้พิสดาร
ยิ่งขึ้นไปอีก แต่สำหรับสูตรทั้งหลาย เนื้อความเหล่าใด เว้นเรื่องราว
เสีย จะไม่แจ่มแจ้ง ข้าพเจ้าจักกล่าวเรื่องราวทั้งหลายไว้ เพื่อความ
แจ่มแจ้งแต่งเนื้อความเหล่านั้น.
พระพุทธวจนะนี้ คือ ศีลกถา ธุดงคธรรม กรรมฐานทั้งหมด
ความพิสดารของฌานและสมาบัติ ที่ประกอบด้วยวิธีปฏิบัติ อภิญญา
ทั้งหมด คำวินิจฉัยทั้งสิ้นอันเกี่ยวด้วยปัญญา ขันธ์ ธาตุ อายตนะ
อินทรีย์ อริยสัจ 4 ปัจจยาการเทศนา มีนัยอันหมดจดละเอียด ซึ่ง
ไม่พ้นจากแนวพระบาลี และวิปัสสนาภาวนา แต่เพราะเหตุที่พระ

พุทธวจนะที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด ข้าพเจ้ากล่าวแล้ว ในวิสุทธิมรรค
อย่างหมดจดดี ฉะนั้นในที่นี้ข้าพเจ้าจักไม่วิจารณ์เรื่องทั้งหมดนี้ ให้ยิ่ง
ขึ้นไป เพราะปกรณ์พิเศษ ชื่อว่าวิสุทธิมรรคนี้ ที่ข้าพเจ้ารจนาไว้
แล้วนั้น ดำรงอยู่ท่ามกลางแห่งนิกายทั้ง 4 จักประกาศข้อความตาม
ที่ได้กล่าวไว้ในนิกายทั้ง 4 นั้น ฉะนั้นขอสาธุชนทั้งหลาย จงถือเอา
ปกรณ์วิเศษชื่อวิสุทธิมรรคนั้น พร้อมด้วยอรรถกถานี้ แล้วจักทราบ
ข้อความตามที่อ้างอิงคัมภีร์อังคุตตรนิกายแล.