เมนู

กายในกายอยู่ .. . ในเวทนาอยู่ . . . ในจิตอยู่ . . . ย่อมพิจารณาเห็นธรรมใน
ธรรมอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัด อภิชฌาและโทมนัสในโลก
เสีย อย่างนี้แล ภิกษุจึงชื่อว่าเป็นผู้มีสติ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุพึงเป็น
ผู้มีสติอยู่เถิด นี้เป็นอนุศาสนีของเราสำหรับเธอทั้งหลาย.
จบสติสูตรที่ 4

อรรถกถาสติสูตร



สูตรที่ 4.

ครั้นทรงแสดงเหตุเกิดขึ้น (สมุทัย) ล้วน ๆ เสร็จแล้ว
พระองค์ก็ตรัส (พระสูตรนี้) ตามอัธยาศัยของผู้จะตรัสรู้ได้.
จบอรรถกถาสติสูตร

5. กุสลราสิสูตร



ว่าด้วยกองกุศล


[826] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อจะกล่าวว่ากองกุศล จะกล่าวให้ถูก
ต้องกล่าวถึงสติปัฏฐาน 4 เพราะว่ากองกุศลทั้งสิ้น ได้แก่สติปัฏฐาน 4 สติ-
ปัฏฐาน เป็นไฉน ภิกษุในธรรมวินัยนี้ย่อมพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ มี
ความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสีย ย่อม
พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาอยู่ . . . ย่อมพิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ . . . ย่อม
พิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัด
อภิชฌาและโทมนัสในโลกเสีย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อจะกล่าวว่ากองกุศล
จะกล่าวให้ถูก ต้องกล่าวถึงสติปัฏฐาน 4 เพราะว่ากองกุศลทั้งสิ้นนี้ได้แก่สติ-
ปัฏฐาน 4.
จบกุสลราสิสูตรที่ 5