เมนู

2. นาฬันทาสูตร



ว่าด้วยธรรมปริยาย


[726] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับ อยู่ที่ปาวาริกอัมพวัน
ใกล้เมืองนาฬันทา ครั้งนั้น ท่านพระสารีบุตรเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า
ถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้น
แล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์เลื่อมใส
ในพระผู้มีพระภาคเจ้าอย่างนี้ว่า สมณะหรือพราหมณ์อื่น ซึ่งจะรู้ยิ่งไปกว่า
พระผู้มีพระภาคเจ้าในทางปัญญาเครื่องตรัสรู้ มิได้มีแล้ว จักไม่มี และย่อม
ไม่มีในบัดนี้. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนสารีบุตร นี้เป็นอาสภิวาจาอย่าง
สูงที่เธอกล่าวแล้ว เธอถือเอาแต่วาทะอย่างเดียวบันลือสีหนาทว่า พระพุทธ-
เจ้าข้า ข้าพระองค์เลื่อมใสในพระผู้มีพระภาคเจ้าอย่างนั้นว่า สมณะหรือพราหมณ์
อื่น ซึ่งจะรู้ยิ่งไปกว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าในทางปัญญาเครื่องตรัสรู้มิได้มีแล้ว
จักไม่มี และย่อมไม่มีในบัดนี้.
[727] ดูก่อนสารีบุตร พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเหล่าใดที่ได้
มีมาแล้วในอดีตกาล พระผู้มีพระภาคเจ้าเหล่านั้นทุกพระองค์ อันเธอกำหนดซึ่ง
ใจด้วยใจแล้วรู้ว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าเหล่านั้นได้ทรงมีศีลอย่างนั้น ได้มีธรรม
อย่างนี้ ได้มีปัญญาอย่างนั้น ได้มีธรรมเป็นเครื่องอยู่อย่างนั้น หรือว่าหลุดพ้นแล้ว
อย่างนั้น ดังนี้ กระนั้นหรือ.
สา. หามิได้ พระเจ้าข้า.
[728] พ. ดูก่อนสารีบุตร พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเหล่าใด
ที่จักมีในอนาคตกาล และพระผู้มีพระภาคเจ้าเหล่านั้นทุกพระองค์ อันเธอ