เมนู

ควรพิจารณาเห็นเวทนาเหล่านั้นทั้งหมดว่า เป็นทุกข์บ้าง ดังที่ท่าน
กล่าวว่า เราเห็นว่า สิ่งที่เสวยแล้วทั้งหมดนั้นอยู่ในทุกข์ และควรพิจารณา
เห็นโดยความเป็นสุขและทุกข์บ้าง. สมดังที่ท่านกล่าวว่า ดูก่อนวิสาขะผู้มีอายุ
สุขเวทนาแลเป็นสุขเพราะความตั้งอยู่ เป็นทุกข์เพราะความแปรปรวน.
ทั้งหมดควรให้พิสดาร. ก็และควรพิจารณา แม้ด้วยสามารถแห่งอนุปัสสนา 7
มีอนิจจานุปัสสนาเป็นต้น . ควรพิจารณาตามซึ่งจิต แม้ในธรรมว่า ด้วยจิต
ด้วยสามารถแห่งประเภทอันเป็นความต่างกัน มีอารัมมณปัจจัย อธิปติปัจจัย
สหชาตปัจจัย ภูมิ กรรม วิบากและกิริยาจิตเป็นต้น และประเภทแห่งจิต
มีราคะเป็นต้น อันเป็นอนุปัสสนา มีอนิจจานุปัสสนาเป็นต้นก่อน.
ควรพิจารณาเห็นธรรม ด้วยสามารถแห่งสามัญญลักษณะพร้อมด้วย
ลักษณะ แห่งสุญญตธรรม แห่งอนุปัสสนา 7 มีอนิจจานุปัสสนาเป็นต้น
และแห่งประเภทมีอาทิว่า กามฉันทะ มีอยู่ในภายใน ดังนี้. ที่เหลือมีนัย
กล่าวไว้แล้ว. นี้เป็นความสังเขปในที่นี้. แต่พึงทราบความพิสดารโดยนัย
ที่กล่าวไว้แล้ว ในอรรถกถาสติปัฏฐานทีฆนิกายมัชฌิมปัณณาสก์.
จบอรรถกถาอัมพปาลิสูตรที่ 1

2. สติสูตร


ว่าด้วยสติ


[682] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ อัมพปาลิวัน
ใกล้กรุงเวสาลี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย...
แล้วได้ตรัสพระพุทธภาษิตนี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุพึงเป็นผู้มีสติ
สัมปชัญญะอยู่ นี้เป็นอนศาสนีของเราสำหรับเธอทั้งหลาย.