เมนู

อรรถกถานีวรณสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในนีวรณสูตรที่ 10.
บทว่า อนฺธกรณา แปลว่า กระทำให้มืด. บทว่า อจกฺขุกรณา
ได้แก่ กระทำไม่ให้มีปัญญาจักษุ. บทว่า ปญฺญานิโรธิยา ได้แก่ ดับปัญญา.
บทว่า วิฆาตปกฺขิยา แปลว่า เป็นฝ่ายทุกข์. บทว่า อนิพฺพานสํวตฺตนิกา
ได้แก่ ไม่เป็นไปเพื่อนิพพาน. คำที่เหลือในบททั้งปวงมีเนื้อความง่ายทั้งนั้น
แล ในวรรคนี้ แม้ทั้งสิ้น ท่านกล่าวโพชฌงค์คลุกเคล้ากันไป ด้วยประการ
ฉะนี้.
จบอรรถกถานีวรณสูตรที่ 10
จบนีวรณวรรควรรณนาที่ 4

รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ


1. ปฐมกุสลสูตร 2. ทุติยกุสลสูตร 3. อปกิเลสสูตร 4. อโย-
นิโสสูตร 5. โยนิโสสูตร 6. วุฑฒิสูตร 7. อาวรณานีวรณสูตร
8. นีวรณาวรณสูตร 9. รุกขสูตร 10. นีวรณสูตร พร้อมทั้งอรรถกถา.

จักกวัตติวรรคที่ 5



1. วิธาสูตร



ละมานะ 3 เพราะโพชฌงค์


[503] สาวัตถีนิทาน. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็สมณะหรือพราหมณ์
เหล่าใดเหล่าหนึ่ง ในอดีตกาล ละมานะ 3 อย่างได้แล้ว สมณะหรือพราหมณ์
เหล่านั้นทั้งหมด ละได้แล้วก็เพราะโพชฌงค์ 7 อันตนเจริญแล้ว กระทำให้
มากแล้ว. สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง ในอนาคตกาล จักละ
มานะ 3 อย่างได้ สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้นทั้งหมด จักละได้ก็เพราะ
โพชฌงค์ 7 อันตนเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว. สมณะหรือพราหมณ์
เหล่าใดเหล่าหนึ่งในปัจจุบันละมานะ 3 อย่างได้ สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้น
ทั้งหมดละได้ก็เพราะโพชฌงค์ 7 อันตนเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว.
[504] โพชฌงค์ 7 เป็นไฉน คือ สติสัมโพชฌงค์ ฯลฯ อุเบกขา
สัมโพชฌงค์ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง
ในอดีตกาล ละมานะ 3 อย่างได้แล้ว สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด
เหล่าหนึ่ง ในอนาคตกาล จักละมานะ 3 อย่างได้ . . . สมณะหรือพราหมณ์
เหล่าใดเหล่าหนึ่ง ในปัจจุบัน ละมานะ 3 อย่างได้ สมณะหรือพราหมณ์
เหล่านั้นทั้งหมด ละได้ก็เพราะโพชฌงค์ 7 อันตนเจริญแล้ว กระทำให้มาก
แล้ว.
จบวิธาสูตรที่ 1