เมนู

สัมโพชฌงค์ ย่อมถึงความเจริญบริบูรณ์ โพชฌงค์ 7 เหล่านี้ ย่อมถึงความ
เจริญบริบูรณ์.
[495] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมัยใด อริยสาวกตั้งใจ ใส่ใจ รวม
ไว้ด้วยใจทั้งหมด เงี่ยโสตลงฟังธรรม สมัยนั้น นิวรณ์ 5 ย่อมไม่มีแก่เธอ
โพชฌงค์ 7 เหล่านี้ ย่อมถึงความเจริญบริบูรณ์.
จบนีวรณาวรณสูตรที่ 8

อรรถกถานีวรณาวรณสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในนีวรณาวรณสูตรที่ 8.
บทว่า ปญฺจสฺส นีวรณา ตสฺสึ สมเย น โหนฺติ สตฺต
โพชฺฌงฺคา ตสฺมึ สมเย ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ
ความว่า นิวรณ์
5 อย่างของพระอริยสาวก ผู้ฟังอยู่ซึ่งธรรมเป็นที่สบาย ย่อมอยู่ในที่ไกล
ถ้าพระอริยสาวกนั้นสามารถเพื่อยังคุณวิเศษให้เกิดในที่นั้นได้ โพชฌงค์ 7
ของพระอริยสาวกนั้น ย่อมถึงความเจริญบริบูรณ์อย่างนี้. ถ้าไม่สามารถ
แต่นั้นท่านไปยังที่พักกลางคืนและที่พักกลางวัน เมื่อยังไม่ละปีตินั้นเสีย ข่ม
นิวรณ์ 5 ได้แล้ว จักยังคุณวิเศษให้เกิดได้. ข้อนั้นท่านกล่าวหมายถึงข้อนี้ว่า
แม้เมื่อไม่สามารถอยู่ในที่นั้นได้ เมื่อยังไม่ละปีตินั้น จนถึงภายใน 7 วัน
ข่มนิวรณ์ได้แล้ว จักยังคุณวิเศษให้เกิดได้ ดังนี้. ความจริง โพชฌงค์ที่เธอ
ได้แล้ว ซึ่งเป็นฝ่ายปีติและปราโมทย์คราวเดียวด้วยการฟังธรรม ย่อมเสื่อมไป
เพราะอาศัยความเป็นผู้ยินดีในการงานเป็นต้น. แต่เมื่อได้อุตุสัปปายะเป็นต้น

เห็นปานนั้น ก็เกิดขึ้นอีก ย่อมถึงความเจริญบริบูรณ์ในสมัยนั้น เขากล่าวไว้
อย่างนี้ ด้วยประการฉะนี้แล
จบอรรถกถานีวรณาวรณสูตรที่ 8

9. รุกขสูตร



ธรรมเป็นเครื่องกั้น 5 อย่าง


[496] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ต้นไม้ใหญ่ มีพืชน้อย มีลำต้นใหญ่
งอกคลุมต้นไม้ทั้งหลาย เป็นเหตุทำต้นไม้ที่มันงอกคลุมแล้ว ให้ล้มหัก
กระจัดกระจายวิบัติไป.
[497] ก็ต้นไม้ใหญ่เหล่านั้น ที่มีพืชน้อย มีลำต้นใหญ่งอกคลุม
ต้นไม้ทั้งหลาย เป็นเหตุทำต้นไม้ที่มันงอกคลุมแล้ว ให้ล้มหักกระจัดกระจาย
วิบัติไปเป็นไฉน. คือ ต้นโพธิ ต้นนิโครธ ต้นมิลักขุ* ต้นมะเดื่อ ต้นไทร
ต้นมะขวิด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ต้นไม้ใหญ่เหล่านี้แล ที่มีพืชน้อย มีลำต้น
ใหญ่ งอกคลุมต้นไม้ทั้งหลาย เป็นเหตุทำต้นไม้ที่มันงอกคลุมแล้ว ให้ล้ม
หักกระจัดกระจายวิบัติไป.
[498] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกัน กุลบุตรบางคนใน
โลกนี้ ละกามเช่นใดแล้ว ออกบวชเป็นบรรพชิต กลบุตรนั้นย่อมเป็นผู้
เสียหายวิบัติไปด้วยกามเช่นนั้น หรือที่เลวกว่านั้น.
* พม่าเป็น ปีลกโข เเปลว่า ต้นเลียบ.