เมนู

13. วัตถสูตร



ว่าด้วยผ้า


[262] สาวัตถีนิทาน. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผ้าที่ทอด้วยด้ายชนิดใด
ชนิดหนึ่ง ผ้าของชาวกาสี บัณฑิตกล่าวว่าเลิศกว่าผ้าที่ทอด้วยด้ายเหล่านั้น
แม้ฉันใด กุศลธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ทั้งหมดนั้น มีความไม่ประมาท
เป็นมูล รวมลงในความไม่ประมาท ความไม่ประมาท บัณฑิตกล่าวว่าเลิศ
กว่ากุศลธรรมเหล่านั้น ฉันนั้นเหมือนกัน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันภิกษุผู้
ไม่ประมาท พึงหวังข้อนี้ได้ว่า จักเจริญอริยมรรคประกอบด้วยองค์ 8 จัก
กระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ 8.
[263] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุผู้ไม่ประมาท ย่อมเจริญ
อริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ 8 ย่อมกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบ
ด้วยองค์ 8 อย่างไรเล่า ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญสัมมาทิฏฐิ อันอาศัย
วิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ ฯลฯ ย่อมเจริญสัมมา-
สมาธิ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ไม่ประมาท ย่อมเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ 8
ย่อมกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ 8 อย่างนี้แล.
จบวัตถสูตรที่ 13
จบอัปปมาทวรรคที่ 10

อัปปมาทวรรควรรณนาที่ 10



อรรถกถาแห่งอัปปมาทเปยยาล



พึงทราบวินิจฉัยใน อัปปมาทเปยยาล.
ในบทว่า เอวเมว โข นี้พึงเห็นว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นผู้
เลิศกว่าสัตว์ทั้งปวง ฉันใด ความไม่ประมาทอันเป็นตัวการเป็นธรรมเลิศกว่า
กุศลธรรมทั้งหลายทั้งปวง ฉันนั้น. ถามว่า ก็ความไม่ประมาทนี้เป็นโลกิยะ
มิใช่หรือ แต่กุศลธรรมเป็นโลกุตระก็มี อนึ่ง ความไม่ประมาทนี้เป็น
กามาวจร แต่กุศลธรรมทั้งหลายเป็นไปในภูมิ 4 ความไม่ประมาทนี้จะเป็น
ธรรมเลิศกว่าธรรมเหล่านั้นได้อย่างไร. ตอบว่า เพราะกุศลธรรมเหล่านั้น
อันบุคคลผู้ได้ ย่อมได้ด้วยความไม่ประมาท เพราะฉะนั้น ความไม่ประมาท
นั้นจึงเป็นธรรมเลิศกว่าธรรมเหล่านั้น. ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึง
ตรัสว่า ธรรมเหล่านั้น ทั้งหมดมีความไม่ประมาทเป็นมูล ดังนี้เป็นต้น.
บทว่า ชงฺคลานํ ได้แก่ สัตว์ผู้เที่ยวไปบนฟื้นแผ่นดิน. บทว่า
ปาณานํ ได้แก่พวกสัตว์มีเท้า. บทว่า ปทชาตานิ ได้แก่ เท้าทั้งหลาย. บทว่า
สโมธานํ คจฺฉนฺติ ได้แก่ ถึงการรวบรวมคือยกขึ้น. บทว่า อคฺคมกฺขายติ
ได้แก่ ย่อมกล่าวว่าประเสริฐที่สุด. บทว่า ยทิทํ มหนฺตตฺเตน ได้แก่
ย่อมกล่าวว่าเลิศโดยความเป็นธรรมยิ่งใหญ่. อธิบายว่า ไม่ใช่ กล่าวว่าเลิศ
ด้วยสามารถแห่งคุณ. บทว่า วสฺสิกํ ได้แก่ ดอกมะลิ.
มีเรื่องเล่าว่า พระภาคิยมหาร สดับเรื่องนี้แล้ว รับสั่งให้อบ
ด้วยกลิ่นดอกไม้ 4 ชนิดในห้องหนึ่ง ด้วยพระประสงค์จะทดลองให้นำดอกไม้
มีกลิ่นหอม ตั้งดอกมะลิกำหนึ่งไว้กลางผอบใบหนึ่ง จัดดอกไม้ที่เหลือกำ
หนึ่ง ๆ ตั้งไว้โดยรอบดอกมะลินั้น ทรงปิดพระทวารเสด็จออกไปข้างนอก เมื่อ