เมนู

สัมมาสัมพุทธเจ้า ฯ ล ฯ.
จบสามเณรสูตรที่ 10

11. สามเณีสูตร



ว่าด้วยสามเณรีไฟติดทั่วตัวลอยอยู่ในอากาศ



[660] ฯ ล ฯ ท่านพระมหาโมคคัลลานะได้ตอบว่า เมื่อผมลง
มาจากภูเขาคิชฌกูฏ ได้เห็นสามเณรีลอยอยู่ในเวหาส ผ้าสังฆาฏิก็ดี
บาตรก็ดี ประคดเอวก็ดี ร่างกายก็ดี ของสามเณรีนั้น อันไฟติดทั่วลุก
โชติช่วงแล้ว ได้ยินว่า สามเณรีนั้นส่งเสียงร้องครวญคราง ผมคิดว่า
น่าอัศจรรย์จริงหนอ ไม่เคยมีมาหนอ สัตว์แม้เห็นปานนี้ก็จักมี ยักษ์แม้
เห็นปานนี้ก็จักมี การได้อัตภาพแม้เห็นปานนี้ก็จักมี.
[661] ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกะภิกษุทั้งหลายว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สาวกทั้งหลายเป็นผู้มีจักษุหนอ เป็นผู้มีญาณหนอ
เพราะแม้สาวกก็จักรู้จักเห็นสัตว์เห็นปานนี้ หรือจักเป็นพยาน เมื่อก่อน
สามเณรีนั้นเราก็ได้เห็นแล้วเหมือนกัน แต่ว่ามิได้พยากรณ์ หากว่าเราจะ
พึงพยากรณ์สามเณรีนี้ไซร้ คนอื่นก็จะไม่พึงเชื่อถือเรา ข้อนั้นพึงเป็นไป
เพื่อมิใช่ประโยชน์ เพื่อความทุกข์สิ้นกาลนาน แก่ผู้ที่ไม่เชื่อถือเรา
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สามเณรีนี้ได้เป็นสามเณรผู้ชั่วช้าในศาสนาของพระ
กัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยผลของกรรมนั้น สามเณรีนั้นหมกไหม้แล้ว
ในนรกหลายมี หลายร้อยปี หลายพันปี หลายหมื่นปี หลายแสนปี ด้วย
ผลของกรรมนั่นแหละยังเหลืออยู่ สามเณรีนั้นจึงต้องเสวยการได้อัตภาพ