แล้ว ได้ยินว่า ภิกษุนั้นส่งเสียงร้องครวญคราง ฯ ล ฯ ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย ภิกษุนี้ได้เป็นภิกษุผู้ชั่วช้าในศาสนาของพระกัสสปสัมมาสัม-
พุทธเจ้า ฯ ล ฯ.
จบภิกขุสูตรที่ 7

อรรถกถาภิกขุสูตรที่ 7

ในเรื่องภิกษุ มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า ปาปภิกฺขุ ได้แก่ ภิกษุลามก. ได้ยินว่า ภิกษุนั้นบริโภค
ปัจจัย 4 ที่ชาวโลกถวายด้วยศรัทธา เป็นผู้ไม่สำรวมทางกายทวารและ
วจีทวารทำลายอาชีวะเสีย เที่ยวปล่อยจิตใจให้สนุกสนาน. แต่นั้น เธอ
ไหม้อยู่ในนรกตลอดพุทธันดรหนึ่ง เมื่อเกิดในเปตโลก บังเกิดด้วย
อัตภาพเช่นภิกษุนั่นเอง.
จบอรรถกถาภิกขุสูตรที่ 7

8. ภิกขุนีสูตร

ว่าด้วยภิกษุณีไฟติดทั่วตัวลอยในอากาศ

[657] ฯ ล ฯ ท่านพระมหาโมคคัลลานะได้ตอบว่า เมื่อผมลง
มาจากภูเขาคิชฌกูฏ ได้เห็นภิกษุณีลอยอยู่ในเวหาส ผ้าสังฆาฏิก็ดี บาตร
ก็ดี ประคดเอวก็ดี ร่างกายก็ดี ของภิกษุณีนั้น อันไฟติดทั่วลุกโชติ
ช่วงแล้ว ได้ยินว่า ภิกษุณีนั้นส่งเสียงร้องครวญคราง ฯ ล ฯ ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีนี้ได้เป็นภิกษุณีผู้ชั่วช้า ในศาสนาของพระกัสสป-

สัมมาสัมพุทธเจ้า ฯ ล ฯ.
จบภิกขุนีสูตรที่ 8

9. สิกขมานาสูตร

ว่าด้วยสิกขมานาไฟติดทั่วตัวลอยในอากาศ

[658] ฯ ล ฯ ท่านพระมหาโมคคัลลานะได้ตอบว่า เมื่อผมลง
มาจากภูเขาคิชฌกูฏ ได้เห็นสิกขมานาลอยอยู่ในเวหาส ผ้าสัมฆาฏิก็ดี
บาตรก็ดี ประคดเอวก็ดี ร่างกายก็ดี ของสิกขมานานั้น อันไฟติดทั่ว
ลุกโชติช่วงแล้ว ได้ยินว่า สิกขมานานั้นส่งเสียงร้องครวญคราง ฯ ล ฯ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิกขมานานี้ได้เป็นสิกขมานาผู้ชั่วช้า ในศาสนาของ
พระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ฯ ล ฯ.
จบสิกขมานาสูตรที่ 9

10. สามเณรสูตร

ว่าด้วยสามเณรไฟติดทั่วตัวลอยอยู่ในอากาศ

[659] ฯ ล ฯ ท่านพระมหาโมคคัลลานะได้ตอบว่า เมื่อผมลง
มาจากภูเขาคิชฌกูฏ ได้เห็นสามเณรลอยอยู่ในเวหาส ผ้าสังฆาฏิก็ดี
บาตรก็ดี ประคดเอวก็ดี ร่างกายก็ดี ของสามเณรนั้น อันไฟติดทั่วลุก
โชติช่วงแล้ว ได้ยินว่า สามเณรนั้นส่งเสียงร้องครวญคราง ฯ ล ฯ ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย สามเณรนี้เป็นสามเณรผู้ชั่วช้า ในศาสนาของพระกัสสป.