เมนู

ด้วยสุขแต่อุจจาระและสุขแต่กาม เพราะเขามีส่วนเสมอกับกรรม จึง
สัมผัสคูถ บังเกิดในหลุมคูถนั้นเพื่อเสวยทุกข์.
จบอรรถกถาคูถขาทิสูตรที่ 2

2. คูถขาทิสูตร



ว่าด้วยบุรุษกินคูถ



[651] ฯ ล ฯ ท่านพระมหาโมคคัลลานะได้ตอบว่า เมื่อผมลง
มาจากภูเขาคิชฌกูฏ ได้เห็นบุรุษผู้จมอยู่ในหลุมคูถ ใช้มือทั้งสองกอบคูถ
กิน ฯ ล ฯ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตว์นี้ได้เป็นพราหมณ์อยู่ในกรุงราชคฤห์
นี้เอง พราหมณ์นั้นนิมนต์พระภิกษุสงฆ์ในพระศาสนาของพระกัสสป-
สัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยภัตแล้ว เอาคูถใส่จนเต็มรางแล้ว ใช้ให้คนไปบอก
เวลาแล้วกล่าวว่า ท่านเจ้าข้า ขอพวกท่านจงฉันและจงนำไปจนพอแก่
ความต้องการเถิด ฯ ล ฯ.
จบคูถขาทิสูตรที่ 2

อรรถกถาคูถขาทิสูตรที่ 2



เรื่องบุรุษผู้กินคูถ ปรากฏชัดแล้วแล.
จบอรรถกถาคูถขาทิสูตรที่ 2

3. นิจฉวิตถีสูตร



ว่าด้วยหญิงไม่มีผิวหนัง



[652] ฯ ล ฯ ท่านพระมหาโมคคัลลานะได้ตอบว่า เมื่อผมลง
มาจากภูเขาคิชฌกูฏ ได้เห็นหญิงผู้ไม่มีผิวหนังลอยอยู่ในเวหาส แร้งบ้าง
กาบ้าง นกตะกรุมบ้าง ต่างก็โผถลาตามจิกทิ้งหญิงนั้น ได้ยินว่า หญิง
นั้นส่งเสียงร้องครวญคราง ฯ ล ฯ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย หญิงนี้ได้เป็น
หญิงประพฤตินอกใจสามีอยู่ในกรุงราชคฤห์นี้เอง ฯ ล ฯ.
จบนิจฉวิตถีสูตรที่ 3

อรรถกถานิจฉวิตถีสูตรที่ 3



ในเรื่องหญิงไม่มีผิวหนัง มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
เพราะธรรมดาว่ามาตุคาม ย่อมไม่เป็นใหญ่ในผัสสะของตน และ
มาตุคามนั้นขโมยผัสสะอันเป็นของของสามีแล้วให้เกิดความยินดีผัสสะของ
ผู้อื่น ฉะนั้น เธอจึงมีผัสสะเป็นสุข เพราะมีส่วนเท่ากับกรรม จุติจาก
อัตภาพนั้นแล้ว จึงเกิดเป็นหญิงไม่มีผิวหนัง เพื่อเสวยสัมผัสเป็นทุกข์.
จบอรรถกถานิจฉวิตถีสูตรที่ 3

4. มังคุฬิตถีสูตร



ว่าด้วยหญิงมีกลิ่นเหม็น


[653] ฯลฯ ท่านพระมหาโมคคัลลานะได้ตอบว่า เมื่อผมลง
มาจากภูเขาคิชฌกูฏ ได้เห็นหญิงมีกลิ่นเหม็นน่าเกลียดลอยอยู่ในเวหาส