เมนู

ความสรรเสริญย่ำยีจิตของภิกษุใดได้ มาตุคามแม้มีความต้องการด้วยธรรม
ไม่สามารถจะย่ำยีของภิกษุแต่ละรูปผู้นั่งอยู่ในที่ลับนั้นได้.
จบอรรถกถามาตุคามสูตรที่ 1

2. ชนปทกัลยาณีสูตร



ว่าด้วยนางงามประจำชนบท



[567] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้า
. . . ได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ลาภสักการะและความ
สรรเสริญ ทารุณ เผ็ดร้อน หยาบคาย เป็นอันตรายแก่การบรรลุธรรม
อันเกษมจากโยคะ ซึ่งไม่มีธรรมอื่นยิ่งไปกว่า.
[568] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นางงามประจำบทคนเดียว ย่อม
ไม่อาจย่ำยีจิตของภิกษุรูปหนึ่งได้ แต่ลาภสักการะและความสรรเสริญ ย่อม
อาจย่ำยีได้ ฯ ล ฯ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ลาภสักการะและความสรรเสริญ
ฯ ล ฯ ทารุณอย่างนี้แล เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้แหละ.
จบชนปทกัลยาณีสูตรที่ 2

อรรถกถาชนปทกัลยาณีสูตรที่ 2



ชนปทกัลยาณีสูตรที่ 2

ง่ายทั้งนั้นแล.
จบอรรถกถาชนปทกัลยาณีสูตรที่ 2

3. ปุตตสูตร



ว่าด้วยเรื่องบุตร



[569] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้า
. . . ได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ลาภสักการะและความ
สรรเสริญ ทารุณ เผ็ดร้อน หยาบคาย เป็นอันตรายแก่การบรรลุธรรม
อันเกษมจากโยคะ ซึ่งไม่มีธรรมอื่นยิ่งไปกว่า.
[570] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุบาสิกาผู้มีศรัทธาเมื่อวิงวอนบุตร
คนเดียวซึ่งเป็นที่รัก เป็นที่โปรดปราน โดยชอบ พึงวิงวอนอย่างนี้ว่า
ขอพ่อจงเป็นเช่นจิตตคฤหบดี และหัตถกอาฬวกอุบาสกเถิด ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย บรรดาอุบาสกผู้เป็นสาวกของเรา จิตตคฤหบดีและหัตถก-
อาฬวกอุบาสก เป็นดุลเป็นประมาณเช่นนี้ ถ้าพ่อออกบวช ก็ขอจงเป็น
เช่นพระสารีบุตรและพระมหาโมคคัลลานะเถิด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
บรรดาภิกษุผู้เป็นสาวกของเรา สารีบุตรและโมคคัลลานะ เป็นดุล
เป็นประมาณเช่นนี้ ขอพ่อจงอย่าเป็นเช่นพระเสขะผู้ยังไม่บรรลุอรหัตผล
ถูกลาภสักการะและความสรรเสริญครอบงำ ถ้าลาภสักการะและความ
สรรเสริญครอบงำภิกษุผู้เป็นพระเสขะไม่บรรลุอรหัตผลไซร้ ก็ย่อมเป็น
อันตรายแก่เธอ ลาภสักการะและสรรเสริญ ทารุณ ฯ ล ฯ อย่างนี้แล
เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้แหละ.
จบปุตตสูตรที่ 3