เมนู

อรรถกถาปัพพตสูตรที่ 5



พึงทราบวินิจฉัยในปัพพตสูตรที่ 5 ดังต่อไปนี้.
บทว่า สกฺกา ปน ภนฺเต ความว่า ได้ยินว่า ภิกษุนั้นคิดว่า
พระศาสดาตรัสว่า มิใช่ทำได้ง่าย จะตัดอย่างไรก็ไม่ได้ เราอาจจะให้
พระองค์ทำอุปมาได้ไหม. เพราะฉะนั้น เธอจึงกราบทูลอย่างนี้. บทว่า
กาสิเกน ความว่า ด้วยผ้าเนื้อละเอียดมากอันสำเร็จด้วยด้ายที่เขาเอาฝ้าย
3 ชนิดมาทอรวมกันเข้า. บุรุษพึงเหวี่ยงไปประมาณเท่าใดด้วยการทำให้
เรียบด้วยผ้านั้น. คือให้เหลือประมาณเมล็ดพันธุ์ผักกาด.
จบอรรถกถาปัพพตสูตรที่ 5

6. สาสปสูตร



ว่าด้วยเรื่องกัป



[431] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ครั้งนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่ง
เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ฯลฯ ครั้นภิกษุนั้นนั่งเรียบร้อยแล้ว ได้
ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ กัปหนึ่งนาน
เพียงไรหนอแล.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ กัปหนึ่งนานแล มิใช่
ง่ายที่จะนับกัปนั้นว่า เท่านี้ปี ฯ ล ฯ หรือว่าเท่านี้ 100,000 ปี.
ภิ. ก็พระองค์อาจจะอุปมาได้ไหม พระเจ้าข้า.
[432] พ. อาจอุปมาได้ ภิกษุ แล้วจึงตรัสต่อไปว่า ดูก่อน

ภิกษุ เหมือนอย่างว่า นครที่ทำด้วยเหล็ก ยาว 1 โยชน์ กว้าง 1 โยชน์
สูง 1 โยชน์ เต็มด้วยเมล็ดพันธุ์ผักกาด มีเมล็ดพันธุ์ผักกาดรวมกันเป็น
กลุ่มก้อน บุรุษพึงหยิบเอาเมล็ดพันธุ์ผักกาดเมล็ดหนึ่ง ๆ ออกจากนคร
นั้นโดยล่วงไปหนึ่งร้อยปีต่อหนึ่งเมล็ด เมล็ดพันธุ์ผักกาดกองใหญ่นั้น พึงถึง
ความสิ้นไป หมดไป เพราะความพยายามนี้ ยังเร็วกว่าแล ส่วนกัปหนึ่ง
ยังไม่ถึงความสิ้นไป หมดไป กัปนานอย่างนี้แล บรรดากัปที่นานอย่างนี้
พวกเธอท่องเที่ยวไปแล้วมิใช่หนึ่งกัป มิใช่ร้อยกัป มิใช่ร้อยพันกัป มิใช่แสน
กัป ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่า สงสารกำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลาย
ไม่ได้ ฯลฯ พอเพื่อจะหลุดพ้น ดังนี้.
จบสาสปสูตรที่ 6

อรรถกถาสาสปสูตรที่ 6



พึงทราบวินิจฉัยในสาสปสูตรที่ 6 ดังต่อไปนี้.
บทว่า อายสํ นครํ ได้เเก่ เมืองล้อมด้วยกำแพงเหล็ก. แต่
ไม่ควรเห็นว่า ภายในเกลื่อนด้วยปราสาทชั้นเดียวเป็นต้นต่อกันไป.
จบอรรถกถาสาสปสูตรที่ 6

7. สาวกสูตร



ว่าด้วยการอุปมากัป



[433] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ครั้นนั้นแล ภิกษุหลายรูป
เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ฯ ล ฯ ครั้นภิกษุเหล่านั้นนั่งเรียบร้อยแล้ว