เมนู

อยู่โดยกาลนาน ดื่มแล้วนั่นแหละมากว่า น้ำในมหาสมุทรทั้ง 4 ไม่
มากกว่าเลย ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่า สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้น
เบื้องปลายไม่ได้ ฯ ล ฯ พอเพื่อจะหลุดพ้น ดังนี้.
จบขีรสูตรที่ 4

อรรถกถาขีรสูตรที่ 4



พึงทราบวินิจฉัยในขีรสูตรที่ 4 ดังต่อไปนี้.
บทว่า มาตุถญฺญํ ได้แก่ น้ำมันมารดา ผู้เป็นมนุษย์ มีชื่อผู้หนึ่ง.
จริงอยู่ ในเวลาสัตว์เหล่านี้บังเกิดในไส้เดือนและมดแดงเป็นต้น ในปลา
และเต่าเป็นต้น หรือในชาติปักษี น้ำมันแม่ไม่มีเลย. ในเวลาบังเถิดใน
แพะ สัตว์เลี้ยงและกระบือเป็นต้น น้ำมันมี. ในพวกมนุษย์ น้ำนมมีอยู่
เหมือนอย่างนั้น . บรรดากาลเหล่านั้น น้ำนม ที่เธอดื่ม ในกาลที่เธอ
ถือกำเนิดในครรภ์ของมารดาผู้มีชื่อผู้หนึ่งว่า "ติสสา" เท่านั้น โดย
ยังมิต้องนับในกาลที่ถือกำเนิดในสัตว์มีแพะเป็นต้น และแม้ในกาลที่ถือ
กำเนิดในครรภ์ของมารดาที่มีชื่อต่างๆ กัน อย่างนี้ว่า "เทวี สุมนา ติสสา
ในพวกมนุษย์" พึงทราบว่า ยังมากกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้ง 4.
จบอรรถกถาขีรสูตรที่ 4

5. ปัพพตสูตร



ว่าด้วยเรื่องกัป



[429] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ครั้งนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่ง

ได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นเข้าไปเฝ้าแล้ว ฯ ล ฯ เมื่อภิกษุ
รูปนั้นนั่งเรียบร้อยแล้ว ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญ กัปหนึ่งนานเพียงไรหนอแล.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ กัปหนึ่งนานแล มิใช่
ง่ายที่จะนับกัปนั้นว่า เท่านี้ปี เท่านี้ 100 ปี เท่านี้ 1,000 ปี หรือว่า
เท่านี้ 100,000 ปี.
ภิ. ก็พระองค์อาจจะอุปมาได้ไหม พระเจ้าข้า.
[430] พ. อาจอุปมาได้ ภิกษุ แล้วจึงตรัสต่อไปว่า ดูก่อนภิกษุ
เหมือนอย่างว่า ภูเขาหินลูกใหญ่ยาวโยชน์หนึ่ง กว้างโยชน์หนึ่ง สูง
โยชน์หนึ่ง ไม่มีช่อง ไม่มีโพรง เป็นแท่งทึบ บุรุษพึงเอาผ้าแคว้น
กาสีมาแล้วปัดภูเขานั้น 100 ปีต่อครั้น ภูเขาหินลูกใหญ่นั้น พึงถึงการ
หมดไป สิ้นไป เพราะความพยายามนี้ ยังเร็วกว่าแล ส่วนกัปหนึ่งยัง
ไม่ถึงการหมดไป สิ้นไป กัปนานอย่างนี้แล บรรดากัปที่นานอย่างนี้
พวกเธอท่องเที่ยวไปแล้ว มิใช่หนึ่งกัป มิใช่ร้อยกัป มิใช่พันกัป มิใช่
แสนกัป. ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่า สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้น
เบื้องปลายไม่ได้ ฯ ล ฯ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็เหตุเพียงเท่านี้ พอทีเดียว
ที่จะเบื่อหน่าย ในสังขารทั้งปวง พอเพื่อจะคลายกำหนัด พอเพื่อจะ
หลุดพ้น ดังนี้.
จบปัพพตสูตรที่ 5

อรรถกถาปัพพตสูตรที่ 5



พึงทราบวินิจฉัยในปัพพตสูตรที่ 5 ดังต่อไปนี้.
บทว่า สกฺกา ปน ภนฺเต ความว่า ได้ยินว่า ภิกษุนั้นคิดว่า
พระศาสดาตรัสว่า มิใช่ทำได้ง่าย จะตัดอย่างไรก็ไม่ได้ เราอาจจะให้
พระองค์ทำอุปมาได้ไหม. เพราะฉะนั้น เธอจึงกราบทูลอย่างนี้. บทว่า
กาสิเกน ความว่า ด้วยผ้าเนื้อละเอียดมากอันสำเร็จด้วยด้ายที่เขาเอาฝ้าย
3 ชนิดมาทอรวมกันเข้า. บุรุษพึงเหวี่ยงไปประมาณเท่าใดด้วยการทำให้
เรียบด้วยผ้านั้น. คือให้เหลือประมาณเมล็ดพันธุ์ผักกาด.
จบอรรถกถาปัพพตสูตรที่ 5

6. สาสปสูตร



ว่าด้วยเรื่องกัป



[431] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ครั้งนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่ง
เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ฯลฯ ครั้นภิกษุนั้นนั่งเรียบร้อยแล้ว ได้
ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ กัปหนึ่งนาน
เพียงไรหนอแล.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ กัปหนึ่งนานแล มิใช่
ง่ายที่จะนับกัปนั้นว่า เท่านี้ปี ฯ ล ฯ หรือว่าเท่านี้ 100,000 ปี.
ภิ. ก็พระองค์อาจจะอุปมาได้ไหม พระเจ้าข้า.
[432] พ. อาจอุปมาได้ ภิกษุ แล้วจึงตรัสต่อไปว่า ดูก่อน