เมนู

อื่นอีก. จริงอยู่ อารมณ์ (คือรูป ) ที่เขาวางล้อมไว้ด้วยม่านและกำแพง
หรือว่าปิดบังได้ด้วยหญ้าและใบไม้เป็นต้น. เมื่อแลดูอารมณ์นั้นอยู่คิดว่า
รูปอารมณ์นั้นอันเราเห็นแล้วครั้งหนึ่ง เราไม่เห็นรูปอารมณ์ชัด สัญญา
ที่เกิดขึ้นในอารมณ์นั้น ชื่อว่ารูปสัญญา. ความดำริเป็นต้นที่เกิดขึ้นในรูป
นั้นแล พึงทราบว่า ชื่อว่ารูปสังกัปปะ ความดำริในรูปเป็นต้นดังนี้. อนึ่ง
ในอารมณ์นี้ สัญญา สังกัปปะ ผัสสะ เวทนา ฉันทะ ได้ในชวนวาระ
เดียวกันบ้าง ในชวนวาระต่างกันบ้าง. ปริฬาหะ ปริเยสนา ลาภะ ได้
ในชวนวาระต่างกันเท่านั้น ด้วยประการฉะนี้.
จบอรรถกถาผัสสสูตรที่ 9

10. โนผัสสสูตร



ว่าด้วยความต่างแห่งผัสสะ



[350] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล พระผู้มี-
พระภาคเจ้า
ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย. . . แล้วได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย ความต่างแห่งสัญญาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ
ความต่างแห่งสังกัปปะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งสัญญา ความต่าง
แห่งผัสสะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งสังกัปปะ ความต่างแห่ง
เวทนาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งผัสสะ ความต่างแห่งฉันทะ
บังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งเวทนา ความต่างแห่งปริฬาหะบังเกิด
ขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งฉันทะ ความต่างแห่งปริเยสนาบังเกิดขึ้น

เพราะอาศัยความต่างแห่งปริฬาหะ ความต่างแห่งลาภะบังเกิดขึ้นเพราะ
อาศัยความต่างแห่งปริเยสนา ความต่างแห่งปริเยสนาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัย
ความต่างแห่งลาภะหามิได้ ความต่างแห่งปริฬาหะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัย
ความต่างแห่งปริเยสนาหามิได้ ความต่างแห่งฉันทะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัย
ความต่างแห่งปริฬาหะหามิได้ ความต่างแห่งเวทนาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัย
ความต่างแห่งฉันทะหามิได้ ความต่างแห่งผัสสะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัย
ความต่างแห่งเวทนาหามิได้ ความต่างแห่งสังกัปปะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัย
ความต่างแห่งผัสสะหามิได้ ความต่างแห่งสัญญาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัย
ความต่างแห่งสังกัปปะหามิได้ ความต่างแห่งธาตุบังเกิดขึ้นเพราะอาศัย
ความต่างแห่งสัญญาหามิได้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ความต่างแห่งธาตุ
เป็นไฉน รูปธาตุ ฯ ล ฯ ธรรมธาตุ นี้เราเรียกว่า ความต่างแห่งธาตุ.
[351] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ความต่างแห่งสัญญาบังเกิดขึ้น
เพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ ความต่างแห่งสังกัปปะบังเกิดขึ้นเพราะ
อาศัยความต่างแห่งสัญญา ความต่างแห่งผัสสะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความ
ต่างแห่งสังกัปปะ ความต่างแห่งเวทนาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่ง
ผัสสะ ความต่างแห่งฉันทะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งเวทนา
ความต่างแห่งปริฬาหะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งฉันทะ ความ
ต่างแห่งปริเยสนาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งปริฬาหะ ความต่าง
แห่งลาภะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งปริเยสนา ความต่างแห่ง
ปริเยสนาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งลาภะหามิได้ ความต่างแห่ง
ฉันทะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งปริฬาหะหามิได้ ความต่างแห่ง
เวทนาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งฉันทะหามิได้ ความต่างแห่ง

ผัสสะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งเวทนาหามิได้ ความต่างแห่ง
สัญญาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งสังกัปปะหามิได้ ความต่างแห่ง
ธาตุบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งสัญญาหามิได้ เป็นไฉน รูปสัญญา
บังเกิดขึ้นเพราะอาศัยรูปธาตุ ฯลฯ ธรรมสัญญาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัย
ธรรมธาตุ ธรรมสังกัปปะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยธรรมสัญญา ฯลฯ ธรรม
ปริเยสนาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยธรรมปริฬาหะ ธรรมลาภะบังเกิดขึ้นเพราะ
อาศัยธรรมปริเยสนา ธรรมปริเยสนาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยธรรมลาภะ
หามิได้ ธรรมปริฬาหะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยธรรมปริเยสนาหามิได้ ธรรม
ปริฬาหะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยธรรมปริเยสนาหามิได้ ธรรมฉันทะบังเกิด
ขึ้นเพราะอาศัยธรรมปริฬาหะหามิได้ ธรรมสัมผัสสชาเวทนาบังเกิดขึ้น
เพราะอาศัยธรรมฉันทะหามิได้ ธรรมสัมผัสสะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยธรรม
สัมผัสสชาเวทนาหามิได้ ธรรมสังกัปปะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยธรรม
สัมผัสสะหามิได้ ธรรมสัญญาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยธรรมสังกัปปะหามิได้
ธรรมธาตุบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยธรรมสัญญาหามิได้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ความต่างแห่งสัญญาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ ความต่าง
แห่งสังกัปปะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งสัญญา ความต่างแห่งผัสสะ
บังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งสังกัปปะ ความต่างแห่งเวทนาบังเกิด
ขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งผัสสะ ความต่างแห่งฉันทะบังเกิดขึ้นเพราะ
อาศัยความต่างแห่งเวทนา ความต่างแห่งปริฬาหะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัย
ความต่างแห่งฉันทะ ความต่างแห่งปริเยสนาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่าง
แห่งปริฬาหะ ความต่างแห่งลาภะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่ง
ปริเยสนา ความต่างแห่งปริเวสนาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งลาภะ

หามิได้ ความต่างแห่งปริฬาหะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งปริ-
เยสนาหามิได้ ความต่างแห่งฉันทะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่ง
ปริฬาหะหามิได้ ความต่างแห่งเวทนาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่ง
ฉันทะหามิได้ ความต่างแห่งผัสสะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่ง
เวทนาหามิได้ ความต่างแห่งสังกัปปะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่ง
ผัสสะหามิได้ ความต่างแห่งสัญญาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่ง
สังกัปปะหามิได้ ความต่างแห่งธาตุบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่ง
สัญญาหามิได้ อย่างนี้แล.
จบโนผัสสสูตรที่ 10
จบนานัตตวรรคที่ 1

รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ


1. ธาตุสูตร 2. สัมผัสสสูตร 3. โนสัมผัสสสูตร
4. เวทนาสูตร 5. โนเวทนาสูตร 6. พาหิรธาตุสูตร
7. สัญญาสูตร 8. โนสัญญาสูตร 9. ผัสสสูตร
10. โนผัสสสูตร.

อรรถกถาโนผัสสสูตรที่ 10



ในผัสสสูตรที่ 10 มีเนื้อความง่ายทั้งนั้นแล.
จบนานัตตวรรคที่ 1