เมนู

หามิได้ ธรรมสัญญาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยธรรมสังกัปปะหามิได้ ธรรม-
ธาตุบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยธรรมสัญญาหามิได้ ความต่างแห่งสัญญาบังเกิด
ขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ ความต่างแห่งสังกัปปะบังเกิดขึ้นเพราะ
อาศัยความต่างแห่งสัญญา ฯ ล ฯ ความต่างแห่งปริเยสนาบังเกิดขึ้นเพราะ
อาศัยความต่างแห่งปริฬาหะ ความต่างแห่งปริฬาหะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัย
ความต่างแห่งปริเยสนาหามิได้ ฯลฯ ความต่างแห่งสัญญาบังเกิดขึ้นเพราะ
อาศัยความต่างแห่งสังกัปปะหามิได้ ความต่างแห่งธาตุบังเกิดขึ้นเพราะ
อาศัยความต่างแห่งสัญญาหามิได้ อย่างนี้แล.
จบโนสัญญาสูตรที่ 8

อรรถกถาโนสัญญาสูตรที่ 8



ในสูตรที่ 8 มีต่างกันเพียงปฏิเสธเท่านั้นมาแล้วอย่างนี้ว่า ธรรม
ปริฬาหะจะเกิดขึ้นเพราะอาศัยธรรมปริเยสนาก็หามิได้.
จบอรรถกถาโนสัญญาสูตรที่ 8

9. ผัสสสูตร



ว่าด้วยความต่างแห่งผัสสะ



[348] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของ
ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย. . . แล้วได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความต่าง
แห่งสัญญาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ ความต่างแห่งสังกัปปะ

บังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งสัญญา ความต่างแห่งผัสสะบังเกิดขึ้น
เพราะอาศัยความต่างแห่งสังกัปปะ ความต่างแห่งเวทนาบังเกิดขึ้นเพราะ
อาศัยความต่างแห่งผัสสะ ความต่างแห่งฉันทะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความ
ต่างแห่งเวทนา ความต่างแห่งปริฬาหะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่ง
ฉันทะ ความต่างแห่งปริเยสนาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่ง
ปริฬาหะ ความต่างแห่งลาภะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งปริเยสนา
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ความต่างแห่งธาตุเป็นไฉน รูปธาตุ ฯ ล ฯ ธรรม-
ธาตุ นี้เราเรียกว่า ความต่างแห่งธาตุ.
[349] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ความต่างแห่งสัญญาบังเกิดขึ้น
เพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ ฯ ล ฯ ความต่างแห่งลาภะบังเกิดขึ้นเพราะ
อาศัยความต่างแห่งปริเยสนาเป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย รูปสัญญา
บังเกิดขึ้นเพราะอาศัยรูปธาตุ รูปสังกัปปะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยรูปสัญญา
รูปผัสสะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยรูปสังกัปปะ รูปสัมผัสสชาเวทนาบังเกิดขึ้น
ขึ้นเพราะอาศัยรูปสัมผัส รูปฉันทะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยรูปสัมผัสสชา-
เวทนา รูปปริฬาหะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยรูปฉันทะ รูปปริเยสนาบังเกิด
ขึ้นเพราะอาศัยรูปปริฬาหะ รูปลาภะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยรูปปริเยสนา
ฯ ล ฯ ธรรมสัญญาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยธรรมธาตุ ธรรมสังกัปปะ
บังเกิดขึ้นเพราะอาศัยธรรมสัญญา ธรรมสัมผัสสะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัย
ธรรมสังกัปปะ ธรรมสัมผัสสชาเวทนาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยธรรมสัมผัสสะ
ธรรมฉันทะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยธรรมสัมผัสสชาเวทนา ธรรมปริฬาหะ
บังเกิดขึ้นเพราะอาศัยธรรมฉันทะ ธรรมปริเยสนาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัย

ธรรมปริฬาหะ ธรรมลาภะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยธรรมปริเยสนา ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย ความต่างแห่งสัญญาบังเกิดขึ้นเพราะอาลัยความต่างแห่งธาตุ
ความต่างแห่งสังกัปปะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งสัญญา ฯ ล ฯ
ความต่างแห่งลาภะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งปริเยสนาอย่างนี้แล.
จบผัสสสูตรที่ 9

อรรถกถาผัสสสูตรที่ 9



พึงทราบวินิจฉัยในผัสสสูตรที่ 9 ดังต่อไปนี้.
บทว่า อุปฺปชฺชติ รูปสญฺญา ได้แก่ สัญญา ย่อมเกิดขึ้นใน
อารมณ์มีประการดังกล่าวแล้ว. บทว่า รูปสงฺกปฺโป ได้แก่ ความดำริ
ประกอบด้วยจิต 3 ดวง ในอารมณ์นั้นแล. บทว่า รูปสมฺผสฺโส ได้แก่
ผัสสะอันถูกต้องอารมณ์นั้น ๆ. บทว่า เวทนา ได้แก่ เวทนาเมื่อเสวย
อารมณ์นั้นและ ธรรมมีฉันท์เป็นต้น มีนัยที่กล่าวแล้วแล. บทว่า
รูปลาโภ ความว่า อารมณ์อันตนแสวงหาได้ พร้อมด้วยตัณหา เรียกว่า
รูปลาภะ. นัยที่รวมไว้ทั้งหมดนี้ ครั้งแรก ท่านกล่าวไว้ด้วยอำนาจ
ความเกิดขึ้นของธรรมทั้งปวง ในอารมณ์เดียวเท่านั้น. อีกนัยหนึ่งผสม
กับอารมณ์ที่จรมา. ครั้งแรก ธรรม 4 เหล่านี้ คือ รูปสัญญา รูป-
สังกัปปะ ผัสสะ เวทนา มีอยู่ ในอารมณ์เป็นประจำสำหรับหน่วงเหนี่ยว
รูปไว้ จริงอยู่ อารมณ์ประจำ เป็นอารมณ์ น่าปรารถนา น่าใคร่
น่าพอใจ น่ารัก ย่อมปรากฏเหมือนมีอารมณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง. ส่วน
อารมณ์ที่จรมา ทำให้อารมณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง แม้ที่มีอยู่ ฟุ้งขึ้นตั้งอยู่