เมนู

รูปสัญญา ประกอบด้วยจักขุวิญญาณ. บทว่า รูปสงฺกปฺโป ความว่า
ความดำริ ประกอบด้วยจิต 3 ดวง มีสัมปฏิจฉันนะเป็นต้น. บทว่า
รูปฉนฺโท ได้แก่ ชื่อว่าฉันทะ เพราะอรรถว่า มีความพอใจในรูป.
บทว่า รูปปริฬาโห ได้แก่ ชื่อว่าปริฬาหะ เพราะอรรถว่า ตามเผา
ในรูป. บทว่า รูปปริเยสนา ความว่า เมื่อความเร่าร้อนเกิดขึ้น การพา
เอาเพื่อนเห็นและเพื่อนคบไปแล้ว แสวงหาเพื่อได้รูปนั้น. ส่วนในที่นี้
สัญญา สังกัปปะ และฉันทะ ได้ในชวนวาระเดียวกันบ้าง ในชวนวาระต่าง
กันบ้าง. ส่วนปริฬาหะและปริเยสนา ได้ในชวนวาระต่างกันอย่างเดียว.
ในบทว่า เอวํ โข ภิกฺขเว ธาตุนานตฺตํ นี้ พึงทราบเนื้อความโดย
นัยนี้ว่า สัญญามีสภาพต่างกันมีรูปสัญญาเป็นต้น ย่อมเกิดขึ้นเพราะ
อาศัยธาตุมีสภาพต่างกันมีรูปเป็นต้น.
จบอรรถกถาสัญญาสูตรที่ 7

8. โนสัญญสูตร



ว่าด้วยความต่างแห่งสัญญา



[346] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ที่นั้นแล พระผู้มี-
พระภาคเจ้า
ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย . . . แล้วได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ความต่างแห่งสัญญาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ ความต่าง
แห่งสังกัปปะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งสัญญา ฯ ล ฯ ความต่าง
แห่งปริเยสนาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งปริฬาหะ ความต่างแห่ง

ปริฬาหะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งปริเยสนาหามิได้ ความต่าง
แห่งฉันทะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งปริฬาหะหามิได้ ความต่าง
แห่งสังกัปปะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งฉันทะหามิได้ ความต่าง
แห่งสัญญาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งสังกัปปะหามิได้ ความต่าง
แห่งธาตุบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งสัญญามิได้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ก็ความต่างแห่งธาตุเป็นไฉน รูปธาตุ ฯลฯ ธรรมธาตุ นี้เราเรียกว่า
ความต่างแห่งธาตุ.
[347] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ความต่างแห่งสัญญาบังเกิดขึ้น
เพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ ความต่างแห่งสังกัปปะบังเกิดขึ้นเพราะ
อาศัยความต่างแห่งสัญญา ฯ ล ฯ ความต่างแห่งปริเยสนาบังเกิดขึ้นเพราะ
อาศัยความต่างแห่งปริฬาหะ ความต่างแห่งปริฬาหะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัย
ความต่างแห่งปริเยสนาหามิได้ ความต่างแห่งฉันทะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัย
ความต่างแห่งปริฬาหะหามิได้ ความต่างแห่งสังกัปปะบังเกิดขึ้นเพราะ
อาศัยความต่างแห่งฉันทะหามิได้ ความต่างแห่งสัญญาบังเกิดขึ้นเพราะ
อาศัยความต่างแห่งสังกัปปะหามิได้ ความต่างแห่งธาตุบังเกิดขึ้นเพราะ
อาศัยความต่างแห่งสัญญาหามิได้ เป็นไฉน ภิกษุทั้งหลาย รูปสัญญา
บังเกิดขึ้นเพราะอาศัยรูปธาตุ ฯ ล ฯ ธรรมสัญญาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัย
ธรรมธาตุ ธรรมสังกัปปะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยธรรมสัญญา ฯ ล ฯ
ธรรมปริเยสนาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยธรรมปริฬาหะ ธรรมปริฬาหะบังเกิด
ขึ้นเพราะอาศัยธรรมปริเยสนาหามิได้ ธรรมฉันทะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัย
ธรรมปริฬาหะหามิได้ ธรรมสังกัปปะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยธรรมฉันทะ

หามิได้ ธรรมสัญญาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยธรรมสังกัปปะหามิได้ ธรรม-
ธาตุบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยธรรมสัญญาหามิได้ ความต่างแห่งสัญญาบังเกิด
ขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ ความต่างแห่งสังกัปปะบังเกิดขึ้นเพราะ
อาศัยความต่างแห่งสัญญา ฯ ล ฯ ความต่างแห่งปริเยสนาบังเกิดขึ้นเพราะ
อาศัยความต่างแห่งปริฬาหะ ความต่างแห่งปริฬาหะบังเกิดขึ้นเพราะอาศัย
ความต่างแห่งปริเยสนาหามิได้ ฯลฯ ความต่างแห่งสัญญาบังเกิดขึ้นเพราะ
อาศัยความต่างแห่งสังกัปปะหามิได้ ความต่างแห่งธาตุบังเกิดขึ้นเพราะ
อาศัยความต่างแห่งสัญญาหามิได้ อย่างนี้แล.
จบโนสัญญาสูตรที่ 8

อรรถกถาโนสัญญาสูตรที่ 8



ในสูตรที่ 8 มีต่างกันเพียงปฏิเสธเท่านั้นมาแล้วอย่างนี้ว่า ธรรม
ปริฬาหะจะเกิดขึ้นเพราะอาศัยธรรมปริเยสนาก็หามิได้.
จบอรรถกถาโนสัญญาสูตรที่ 8

9. ผัสสสูตร



ว่าด้วยความต่างแห่งผัสสะ



[348] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของ
ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย. . . แล้วได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความต่าง
แห่งสัญญาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความต่างแห่งธาตุ ความต่างแห่งสังกัปปะ