เมนู

บทว่า เทเสสฺสามิ ได้แก่ เราจักแสดงความเกิดและความดับ ซึ่งชื่อว่าความ
บังเกิดและความแตกแห่งวัฏทุกข์นี้. อธิบายว่า พวกเธอจงฟังเหตุเกิดและ
ความดับนั้น. บทว่า ปฏิจฺจ ได้แก่ เพราะความประชุมแห่งธรรม 3
ประการ จึงเกิดผัสสะ เพราะทำให้เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจนิสสยปัจจัยและ
อารัมมณปัจจัย. บทว่า อยํ โข ภิกฺขเว ทุกฺขสฺส สมุทโย ได้แก่
นี้ชื่อว่าเป็นความบังเกิดแห่งวัฏทุกข์. ข้อว่า อฏฺฐงฺคโม แปลว่า ความแตก
สลาย. วัฏทุกข์ย่อมเป็นอันถูกทำลายแล้ว หาปฏิสนธิมิได้ ด้วยประการ
ฉะนี้แล.
จบอรรถกถาทุกขนิโรธสูตรที่ 3

4. โลกนิโรธสูตร



ว่าด้วยความเกิดและความดับแห่งโลก



[164] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงความเกิดและความดับแห่งโลก1 เธอ
ทั้งหลายจงฟัง. . . ภิกษุทั้งหลาย ก็ความเกิดแห่งโลกเป็นไฉน. เพราะอาศัย
จักษุและรูป จึงเกิดจักขุวิญญาณ ความประชุมแห่งธรรม 3 ประการเป็น
ผัสสะ เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดเวทนา เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิด
ตัณหา เพระตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดอุปาทาน เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย
จึงเกิดภพ เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดชาติ เพราะชาติเป็นปัจจัย จึงเกิด
ชราและมรณะโสกปริเทวทุกขโทมนัสและอุปายาส ภิกษุทั้งหลาย นี้แลเป็น
ความเกิดแห่งโลก เพราะอาศัยหูและเสียง. . .เพราะอาศัยจมูกและกลิ่น. . .

1. สังขารโลก

เพราะอาศัยลิ้นและรส. . .เพราะอาศัยกายและโผฏฐัพพะ. . .เพราะอาศัยใจ
และธรรม จึงเกิดมโนวิญญาณ ความประชุมแห่งธรรม 3 ประการเป็น
ผัสสะ เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดเวทนา ฯล ฯ เพราะชาติเป็นปัจจัย
จึงเกิดชราและมรณะ โสกปริเทวทุกขโทมนัสและอุปายาส ภิกษุทั้งหลาย
นี้แลเป็นความเกิดแห่งโลก.
[165] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ความดับแห่งโลกเป็นไฉน. เพราะ
อาศัยจักษุและรูป จึงเกิดจักขุวิญญาณ ความประชุมแห่งธรรม 3 ประการ
เป็นผัสสะ เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดเวทนา เพราะเวทนาเป็นปัจจัย
จึงเกิดตัณหา เพราะตัณหานั้นเทียวดับด้วยสำรอกโดยไม่เหลือ อุปาทาน
จึงดับ เพราะอุปาทานดับ ภพจึงดับ เพราะภพดับ ชาติจึงดับ เพราะ
ชาติดับ ชราและมรณะ โสกปริเทวทุกขโทมนัสและอุปายาสจึงดับ
ความดับแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้. ภิกษุทั้งหลาย
นี้แลเป็นความดับแห่งโลก เพราะอาศัยหูและเสียง. เพราะอาศัยจมูกและ
กลิ่น. . . เพราะอาศัยลิ้นและรส. . . เพราะอาศัยกายและโผฏฐัพพะ. . .
เพราะอาศัยใจและธรรม จึงเกิดมโนวิญญาณ ความประชุมแห่งธรรม 3
ประการเป็นผัสสะ เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดเวทนา เพราะเวทนา
เป็นปัจจัย จึงเกิดตัณหา เพราะตัณหานั้นเทียวดับด้วยสำรอกโดยไม่เหลือ
อุปาทานจึงดับ เพราะอุปาทานดับ ภพจึงดับ ฯลฯ ความดับแห่งกอง
ทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้ ภิกษุทั้งหลาย นี้แลเป็นความ
ดับแห่งโลก.
จบโลกนิโรธสูตรที่ 4

อรรถกถาโลกนิโรธสูตรที่ 4



ในโลกนิโรธสูตรที่ 4 มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า โลกสฺส ได้แก่สังขารโลก. ความต่างกันในสูตรที่ 4 นี้
มีเพียงเท่านี้.
จบอรรถกถาโลกนิโรธสูตรที่ 4

5. ญาติกสูตร



ว่าด้วยความประชุม 3 ประการเป็นผัสสะ



[166] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้.
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ที่คิญชกาวสถะ [มหา-
ปราสาทที่สร้างด้วยอิฐ] ใกล้บ้านพระญาติ ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้า
ประทับอยู่ในที่ลับ ทรงเร้นอยู่ ได้ตรัสธรรมปริยายนี้ว่า เพราะอาศัยจักษุ
และรูป จึงเกิดจักขุวิญญาณ ความประชุมแห่งธรรม 3 ประการเป็น
ผัสสะ เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดเวทนา เพราะเวทนาเป็นปัจจัย
จึงเกิดตัณหา เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดอุปาทาน ฯลฯ ความเกิด
ขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้ เพราะอาศัยหูและ
เสียง. . . เพราะอาศัยจมูกและกลิ่น. . . เพราะอาศัยลิ้นและรส. . . เพราะ
อาศัยกายและโผฏฐัพพะ. . . เพราะอาศัยใจและธรรม จึงเกิดนโนวิญญาณ
ความประชุมแห่งธรรม 3 ประการเป็นผัสสะ เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึง
เกิดเวทนา เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดตัณหา เพราะตัณหาเป็นปัจจัย
จึงเกิดอุปาทาน ฯลฯ ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วย
ประการอย่างนี้.