เมนู

อรรถกถาสมิทธิสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในสมิทธิสูตรที่ 2 ต่อไป:-
บทว่า ลาภา เม กต สุลทฺธํ วต เม ความว่า เป็นลาภของเรา
เราได้ดีแล้ว เพราะเราได้พระศาสดา พระธรรม และเพื่อนพรหมจารีเห็นปาน
นั้น. ได้ยินว่า ท่านสมิทธินั้น ภายหลัง พิจารณามูลกัมมัฏฐานแล้ว ก็ยืด
กัมมัฏฐานที่น่าเลื่อมใสไว้ก่อน ด้วยหมายจะยึดเอาพระอรหัตให้ได้ ระลึกคุณ
ของพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ ให้เกิดความที่จิตเหมาะแล้ว นั่ง
ทำจิตให้ร่าเริงยินดี ด้วยเหตุนั้น ท่านสมิทธินั้นจึงคิดอย่างนี้. บทว่า อุปสงฺกมิ
ความว่า มารคิดว่า พระภิกษุสมิทธินี้ ก็เป็นเช่นเดียวกับ ภิกษุที่นั่งถือกัมมัฏฐาน
ที่น่าเลื่อมใส ตราบใด ยังถือเอาพระอรหัตไม่ได้ ตราบนั้น จำเราจักทำ
อันตรายแก่เธอ ดังนี้ แล้วจึงเข้าไปหา. บทว่า คจฺฉ ตฺวํ ความว่า พระศาสดา
ทรงตรวจดูทั่วชมพูทวีป ทรงพบว่า กัมมัฏฐานจักเป็นสัปปายะสำหรับภิกษุนั้น
ในที่นั้นนั่นแล เพราะฉะนั้น จึงตรัสอย่างนี้. บทว่า สติ ปญฺญา จ เม
พุทฺธา
ความว่า เรารู้สติและปัญญาของเรา. บทว่า กามํ กรสฺสุ รูปานิ
ได้แก่ ท่านจะทำรูป ที่น่ากลัวแม้มากมาย. บทว่า เนว มํ พฺยาธยิสฺสสิ
ได้แก่ ท่านไม่ทำเราให้หวั่นไหวได้.
จบอรรถกถาสมิทธิสูตรที่ 2

3. โคธิกสูตร



ว่าด้วยพระโคธิกะปรินิพพาน



[488] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเวฬุวัน อัน
เป็นสถานที่พระราชทานเหยื่อแก่กระแต กรุงราชคฤห์.
ก็สมัยนั้นแล ท่านโคธิกะ อยู่ที่กาฬศิลาข้างภูเขาอิสิคิลิ.
[489] ครั้งนั้นแล ท่านโคธิกะเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร
ตั้งใจมั่น ได้บรรลุเจโตวิมุตติอันเป็นโลกีย์ ภายหลังท่านโคธิกะได้เสื่อมจาก
เจโตวิมุตติอันเป็นโลกีย์นั้น แม้ครั้งที่ 2 ท่านโคธิกะเป็นผู้ไม่ประมาท มี
ความเพียร ตั้งใจมั่น ได้บรรลุเจโตวิมุตติอันเป็นโลกีย์ แม้ในครั้งที่ 2 ก็ได้
เสื่อมจากเจโตวิมุตติอันเป็นโลกีย์นั้น แม้ครั้งที่ 3 ท่านโคธิกะเป็นผู้ไม่ประมาท
มีความเพียร ตั้งใจมั่นอยู่. ได้บรรลุเจโตวิมุตติอันเป็นโลกีย์ แม้ในครั้งที่ 3 ก็
ได้เสื่อมจากเจโตวิมุตติอันเป็นโลกีย์นั้น แม้ครั้งที่ 4 ท่านโคธิกะเป็นผู้ไม่
ประมาท มีความเพียร ตั้งใจมั่น ได้บรรลุเจโตวิมุติอัน เป็นโลกีย์ แม้ในครั้ง
ที่ 4 ก็ได้เสื่อมจากเจโตวิมุตติอันเป็นโลกีย์นั้น แม้ครั้งที่ 5 ท่านโคธิกะเป็นผู้
ไม่ประมาท มีความเพียร ตั้งใจมั่น ได้บรรลุเจโตวิมุตติอันเป็นโลกีย์ แม้ใน
ครั้งที่ 5 ก็ได้เสื่อมจากเจโตวิมุตติอันเป็นโลกีย์นั้น แม้ครั้งที่ 6 ท่านโคธิกะ
เป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร ตั้งใจมั่น ได้บรรลุเจโตวิมุตติอันเป็นโลกีย์
แม้ในครั้งที่ 6 ก็ได้เสื่อมจากเจโตวิมุตติอันเป็นโลกีย์นั้น แม้ครั้งที่ 7 ท่าน
โคธิกะเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร ตั้งใจมั่น ก็ได้บรรลุเจโควิมุตติอันเป็น
โลกีย์อีก.