เมนู

สักกปัญจกะที่ 3



1. ฆัตวาสูตร



ว่าด้วยผลการฆ่าความโกรธ



[943] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน
อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี.
ครั้งนั้นแล ท้าวสักกะจอมเทพเสด็จเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า
ครั้นแล้วทรงถวายบังคม แล้วประทับอยู่ ณ ที่สมควรส่วนหนึ่ง.
[944] ท้าวสักกะจอมเทพประทับอยู่ ณ ที่สมควรส่วนหนึ่ง เรียบ
ร้อยแล้ว ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยคาถาว่า
บุคคลฆ่าอะไรแล้ว จึงจะอยู่เป็นสุข
ฆ่าอะไรแล้ว จึงจะไม่เศร้าโศก ข้าแต่
พระโคดม พระองค์ทรงชอบการฆ่าอะไร
อันเป็นธรรมอย่างเอก.

[945] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า
บุคคลฆ่าความโกรธเสียแล้ว ย่อม
อยู่เป็นสุข ฆ่าความโกรธเสียแล้วย่อมไม่
เศร้าโศก ดูก่อนท้าววาสวะ พระอริยะเจ้า
ทั้งหลายย่อมสรรเสริญ การฆ่าความโกรธ
อันมีรากเป็นพิษมียอดหวาน เพราะ

บุคคลฆ่าความโกรธนั้นเสียแล้ว ย่อมไม่
เศร้าโศก.

ฆัตวาสูตรที่ 1 แห่งตติยวรรคมีเนื้อความกล่าวมาแล้ว.

2. ทุพพัณณิยสูตร



ว่าด้วยความโกรธทำให้ผิวพรรณทราม



[946] สาวัตถีนิทาน.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว ยักษ์ตนหนึ่งมีผิวพรรณทราม
ต่ำเตี้ยพุงพลุ้ย นั่งอยู่บนอาสนะแห่งท้าวสักกะจอมเทพ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ได้ยินว่า ในที่นั้น พวกเทวดาชั้นดาวดึงส์พากันยกโทษตำหนิติเตียนว่า ดูก่อน
ท่านผู้เจริญทั้งหลาย น่าอัศจรรย์หนอ ดูก่อนท่านผู้เจริญทั้งหลาย ไม่เคยมีมา
แล้วหนอ ยักษ์นี้มีผิวพรรณทราม ต่ำเตี้ย พุงพลุ้ย นั่งอยู่บนอาสนะแห่งท้าว-
สักกะจอมเทพ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเทวดาชั้นดาวดึงส์ยกโทษตำหนิติเตียน
ด้วยประการใด ๆ ยักษ์นั้นยิ่งเป็นผู้มีรูปงามทั้งน่าดูน่าชมและน่าเลื่อมใสยิ่งขึ้นกว่า
เดิมด้วยประการนั้น ๆ.
[947] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล พวกเทวดาชั้นดาวดึงส์พา
กันเข้าไปเฝ้าท้าวสักกะจอมเทพถึงที่ประทับ ครั้นแล้วได้กราบทูลว่า ข้าแต่
พระองค์ผู้นิรทุกข์ ขอประทานโอกาสขอพระองค์ ยักษ์ตนหนึ่งมีผิวพรรณ
ทราม ต่ำเตี้ย พุงพลุ้ย นั่งอยู่บนอาสนะของพระองค์ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ได้ทราบว่า ณ ที่นั้นพวกเทวดาชั้นดาวดึงส์พากันยกโทษตำหนิติเตียนว่า ดู
ก่อนท่านผู้เจริญทั้งหลาย น่าอัศจรรย์หนอ ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ไม่เคย