เมนู

กลิ่นของพวกฤาษีผู้ประพฤติพรตมา
นาน ย่อมจะฟุ้งจากกายไปตามลม ดูก่อน
ท้าวสหัสนัยน์ พระองค์จงถอยไปเสียจาก
ที่นี้ ดูก่อนท้าวเทวราช กลิ่นของพวก
ฤาษีไม่สะอาด.

[898] ท้าวสักกะตรัสตอบว่า
กลิ่นของพวกฤาษีผู้ประพฤติพรต
มานาน ย่อมจะฟุ้งจากกายไปตามลม
ท่านเจ้าข้า พวกข้าพเจ้าต่างก็มุ่งหวังกลิ่น
นี้เหมือนกับบุคคลนุ่งหวังระเบียบดอกไม้
อันวิจิตร งดงาม บนศีรษะ ฉะนั้น
ก็พวกเทวดาหามีความสำคัญในกลิ่นของ
ผู้มีศีลนี้ว่าเป็นกลิ่นปฏิกูลไม่.


อรรถกถาอารัญญกสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในอารัญญกสูตรที่ 9 ต่อไปนี้ :-
บทว่า ปณฺณกุฏีสุ สมฺมนฺติ ความว่า ฤาษีทั้งหลายอาศัยอยู่ ใน
บรรณศาลา สมบูรณ์ด้วยที่พักกลางคืนที่พักกลางวัน และที่จงกรมเป็นต้น
ในราวป่า อันน่ารื่นรมย์ในหิมวันตประเทศ. เทพทั้งสองเหล่านั้นคือ ท้าวสักกะ
จอมเทพและท้าวเวปจิตติเป็นลูกเขยพ่อตากัน บางครั้งก็ทะเลาะกัน บางครั้งก็
เที่ยวไปด้วยกัน แต่ในครั้งนี้เที่ยวไปด้วยกัน. บทว่า อฏลิโย ได้แก่ รองเท้า

หนาหลายชั้น. บทว่า ขคฺคํ โอลคฺเคตฺวา ได้แก่ สะพายดาบ. บทว่า
ฉตฺเตน ได้แก่ กั้นเศวตฉัตรทิพย์ไว้เบื้องสูง. บทว่า อปพฺยามโต กริตฺวา
แปลว่า ห่างไม่ถึงวา. บทว่า จิรทกฺขิตานํ แปลว่า ประพฤติพรตมานาน.
ฤาษีทั้งหลายกล่าวว่า ท่านจงถอยไปเสียจากนี้ จงเว้น เสียจากที่นี้ อย่ายืนเหนือ
ลม. บทว่า น เหตฺถ เทวา ความว่า พวกเทวดาหามีความสำคัญในกลิ่นของ
ผู้มีศีลนี้ว่า ปฏิกูลไม่. ท่านแสดงไว้ว่า ก็พวกเทวดามีความสำคัญในกลิ่น
ของผู้มีศีลว่า น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าชอบใจทั้งนั้น.
จบอรรถกถาอารัญยกสูตรที่ 9

10. สมุททกสูตร



ว่าด้วยท้าวสมพรจอมอสูรถูกสาป



[899] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ พระวิหารเชตวัน
อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี ณ ที่นั้นแล ฯลฯ
[900] พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้ง
หลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว ฤาษีผู้มีศีลมีกัลยาณธรรมมากรูปด้วยกัน อาศัยอยู่ใน
กุฏีที่มุงบังด้วยใบไม้แทบฝั่งสมุทร ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมัยนั้นแล สงคราม
ระหว่างพวกเทวดากับ อสูรได้ประชิดกันแล้ว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล
พวกฤาษีผู้มีศีลมีกัลยาณธรรมเหล่านั้นพากันคิดเห็นว่า พวกเทวดาตั้งอยู่ใน
ธรรม พวกอสูรไม่ตั้งอยู่ในธรรม ภัยนั้นพึงเกิดแก่พวกเราเพราะอสูรโดยแท้
อย่ากระนั้นเลย พวกเราควรเข้าไปหาท้าวสมพรจอมอสูรแล้วขออภัยทานเถิด.