เมนู

11. อโยนิโสมนสิการสูตร



อกุศลวิตกเกิดเพราะไม่มนสิการโดยแยบคาย



[789] สมัยหนึ่ง ภิกษุรูปหนึ่ง พำนักอยู่ในแนวป่าแห่งหนึ่งใน
แคว้นโกศล สมัยนั้นแล เธอไปที่พักในกลางวัน ตรึกอกุศลวิตกอันลามก
คือกามวิตก พยาบาทวิตก และวิหิงสาวิตก.
[790] ครั้งนั้นแล เทวดาผู้สิ่งอยู่ในแนวป่านั้น มีความเอ็นดู
ใคร่ประโยชน์ หวังจะให้ภิกษุนั้นสังเวช จึงเข้าไปหาถึงที่อยู่ ครั้นแล้ว
ได้กล่าวกะภิกษุนั้นด้วยคาถาว่า
ท่านถูกวิตกกิน เพราะมนสิการ
ไม่แยบคาย ท่านจงละมนสิการไม่แยบคาย
เสีย และจงใคร่ครวญโดยแยบคาย ท่าน
ปรารภพระศาสดา พระธรรม พระสงฆ์
และศีลของตนแล้ว จะบรรลุความปรา-
โมทย์ ปีติและสุขโดยไม่ต้องสงสัย แต่นั้น
ท่านจักเป็นผู้มากด้วยความปราโมทย์ จัก
กระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้.

ลำดับนั้นแล ภิกษุนั้น เป็นผู้อันเทวดานั้นให้สังเวชถึงซึ่งความ
สลดใจแล้วแล.

อรรถกถาอโยนิโสมนสิการสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในอโยนิโสมนสิการสูตรที่ 11 ต่อไปนี้ :-
บทว่า อกุสเล วิตกฺเก คือ ซึ่งมหาวิตก 3 มีกามวิตกเป็นต้น.
บทว่า อโยนิโสมนสิการา แปลว่า เพราะไม่ทำไว้ในใจด้วยอุบาย. บทว่า
โส แปลว่า ท่านนั้น. บทว่า อโยนิโส ปฏินิสฺสชฺช คือ ท่านจง
เว้นการไม่ทำไว้ในใจด้วยอุบายนั้น. บทว่า สตฺถารํ ได้แก่ กล่าวกัมมัฏฐาน
ที่น่าเลื่อมใสด้วยคาถานี้. บทว่า ปีติสุขมสํสยํ ได้แก่ จักบรรลุปีติอันมี
กำลังและความสุขโดยส่วนเดียว.
จบอรรถกถาอโยนิโสมนสิการสูตร ที่ 11.

12. มัชฌันติกสูตร



ว่าด้วยเวลากำลังเที่ยงวัน



[791] สมัยหนึ่ง ภิกษุรูปหนึ่ง พำนักอยู่ในแนวป่าแห่งหนึ่งใน
แคว้นโกศล.
[792] ครั้งนั้นแล เทวดาผู้สิงอยู่ในแนวป่านั้น เข้าไปหาถึงที่อยู่
ครั้นแล้วได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ในสำนักของภิกษุนั้นว่า
ในกาลกำลังเที่ยงวัน เมื่อนกทั้ง-
หลายจับเจ่าแล้ว ภัยนั้นย่อมปรากฏแก่เรา
ประดุจป่าใหญ่ส่งเสียงอยู่.