เมนู

12. วังคีสสูตร



ว่าด้วยพระวังคีสะภาษิตคาถา



[760] สมัยหนึ่ง ท่านพระวังคีสะ อยู่ที่พระวิหารเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี.
ก็สมัยนั้นแล ท่านพระวังคีสะ เป็นผู้บรรลุพระอรหัตแล้วไม่นาน
เสวยวิมุตติสุขอยู่ ได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ในเวลานั้นว่า
ในกาลก่อน เราเป็นผู้มัวเมาด้วย
ความเป็นกวี ได้เที่ยวไปแล้ว สู่บ้าน
จากบ้าน สู่เมืองจากเมือง ครั้นเราได้เห็น
พระสัมพุทธเจ้า ศรัทธาจึงบังเกิดขึ้น
แก่เรา พระสัมพุทธเจ้านั้น ได้ทรงแสดง
ธรรมคือขันธ์ อายตนะ ธาตุแก่เรา เรา
ได้ฟังธรรมของพระองค์แล้ว ก็บรรพชา
เป็นผู้หาเรือนมิได้ พระมุนีได้ตรัสรู้พระ-
โพธิญาณ เพื่อประโยชน์แก่ประชุมชน
เป็นะอันมากแก่ภิกษุ และภิกษุณีทั้งหลาย
ผู้ได้ถึง ได้เห็นนิยามธรรม การมาของเรา
ในสำนักของพระพุทธเจ้าของเรา เป็นการ
มาดีจริงหนอ วิชชา 3 อันเราได้บรรลุ
แล้วโดยลำดับ พระศาสนาของพระพุทธ-

องค์เราได้ทำแล้ว เราย่อมรู้ขันธสันดาน
อันเราเคยอยู่ในกาลก่อน ทิพยจักษุญาณ
เราทำให้หมดจดแล้ว เราเป็นผู้สำเร็จ
ไตรวิชชา บรรลุอิทธิวิธี ฉลาดในเจโต-
ปริยญาณ ดังนี้.

จบวังคีสสูตร
จบวังคีสสังยุต


อรรถกถาวังคีสสูตร



ในวังคีสสูตรที่ 12 มีวินิจฉัยต่อไปนี้ :-
บทว่า อายสฺมา เป็นคำน่ารัก. บทว่า วงฺคีโส เป็นชื่อของ
พระเถระนั้น. ได้ยินว่า ในครั้งพระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ ในปางก่อน
พระเถระนั้น เห็นพระสาวกผู้สมบูรณ์ด้วยปฏิภาณจึงให้ทาน ทำความปรารถนา
บำเพ็ญบารมีถึงแสนกัป ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าของเราทั้งหลาย เขาบัง-
เกิดในครรภ์ของปริพาชิกานางหนึ่ง ซึ่งล้อมกิ่งหว้าไว้เพราะประสงค์จะโต้วาทะ
ทั่วชมพูทวีปแล้วได้วาทะกับปริพาชกนายหนึ่ง เพราะชนะบ้าง แพ้บ้างในวาทะ
จึงอยู่ร่วม [เป็นสามีภริยา] กับปริพาชกนายนั้น เจริญวัยแล้วเรียนวาทะตั้ง
1,000 คือฝ่ายมารดา 500 ฝ่ายบิดา 500 จาริกไป และท่านรู้วิชาอย่างหนึ่ง
ซึ่งร่ายแล้วเอานิ้วมือเคาะศีรษะผู้ตาย ก็รู้ว่าผู้นี้เกิดในที่โน้น. ท่านเที่ยวไปใน
บ้านและนิคมเป็นต้นโดยลำดับ ถึงกรุงสาวัตถีพร้อมมาณพ 500 คน นั่งที่
ศาลาใกล้ประตูพระนคร.