เมนู

4. ปฐมสังคามวัตถุสูตร



ผู้ชนะย่อมก่อเวร



[368] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ . . . กรุงสาวัตถี.
ครั้งนั้น พระเจ้าแผ่นดินมคธอชาตศัตรู เวเทหิบุตร ทรงแต่งจตุรง-
คินีเสนา ยกไปรุกรานพระเจ้าปเสนทิโกศล ทางด้านแคว้นกาสี.
พระเจ้าปเสนทิโกศลได้ทรงสดับข่าวว่า พระเจ้าแผ่นดินมคธอชาตศัตรู
เวเทหิบุตร ทรงแต่งจตุรงคินีเสนายกมารุกรานเราทางแคว้นกาสี.
ลำดับนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลจึงทรงแต่งจตุรงคินีเสนา ยกออกไป
ต่อสู้กับพระเจ้าแผ่นดินมคธ อชาตศัตรู เวเทหิบุตร ป้องกันแคว้นกาสี.
ครั้งนั้น พระเจ้าแผ่นดินมคธอชาตศัตรู เวเทหิบุตร กับพระเจ้า-
ปเสนทิโกศล ทรงทำสงครามต่อกัน แต่ในสงครามครั้งนั้น พระเจ้าแผ่นดิน
มคธอชาตศัตรู เวเทหิบุตรทรงชำนะพระเจ้าปเสนทิโกศล.
ฝ่ายพระเจ้าปเสนทิโกศลผู้ปราชัย ก็เสด็จล่าทัพกลับกรุงสาวัตถีราชธานี
ของพระองค์.
[369] ครั้งนั้น เวลาเช้า ภิกษุเป็นจำนวนมากนุ่งห่มแล้ว ถือบาตร
และจีวรเข้าไปบิณฑบาตยังกรุงสาวัตถีแล้วในเวลาปัจฉาภัต กลับจากบิณฑบาต
แล้ว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ก็ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วนั่ง
อยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.
ภิกษุเหล่านั้น ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้
เจริญ พระเจ้าแผ่นดินมคธอชาตศัตรู เวเทหิบุตร ทรงแต่งจตุรงคินีเสนา ยก
มารุกรานพระเจ้าปเสนทิโกศลทางแคว้นกาสี พระเจ้าปเสนทิโกศลได้ทรงสดับ
ข่าวว่า พระเจ้าแผ่นดินมคธอชาตศัตรู เวเทหิบุตร ทรงแต่งจตุรงคินีเสนา

ยกมารุกรานเราทางแคว้นกาสี ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ลำดับนั้น พระเจ้า-
ปเสนทิโกศล จึงทรงแต่งจตุรงคินีเสนา ยกออกไปต่อสู้พระเจ้าแผ่นดินมคธ-
อชาตศัตรู เวเทหิบุตร ป้องกันแคว้นกาสี ครั้งนั้นพระเจ้าแผ่นมคธอชาตศัตรู
เวเทหิบุตร กับพระเจ้าปเสนทิโกศลทรงทำสงครามต่อกัน แต่ในสงครามครั้ง
นั้น พระเจ้าแผ่นดินมคธอชาตศัตรู เวเทหิบุตร ทรงชำนะพระเจ้าปเสนทิโกศล
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ฝ่ายพระเจ้าปเสนทิโกศลผู้ปราชัย ก็เสด็จล่าทัพกลับ
กรุงสาวัตถีราชธานีของพระองค์.
[370] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พระเจ้า
แผ่นดินมคธอชาตศัตรู เวเทหิบุตร มีมิตรเลวทราม มีสหายเลวทราม มี
พระทัยน้อมไปในคนเลวทราม ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ฝ่ายพระเจ้าปเสนทิโกศล
มีมิตรดีงาม มีสหายดีงาม มีพระทัยน้อมไปในคนดีงาม ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
วันนี้ พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงแพ้มาแล้วอย่างนี้ จักบรรทมเป็นทุกข์ตลอด
ราตรีนี้.
[371] พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้พระสุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณ์คำ
ร้อยแก้วจบลงแล้ว จึงได้ตรัสพระคาถาคำร้อยกรองต่อไปอีกว่า
ผู้ชำนะย่อมก่อเวร ผู้แพ้ย่อมนอน
เป็นทุกข์ บุคคลละความชนะและความ
แพ้เสียแล้ว จึงสงบระงับ นอนเป็นสุข.

อรรถกถาปฐมสังคามวัตถุสูตร



พึงทราบวินิจฉัยยในปฐมสังคามวัตถุสูตรที่ 4 ต่อไป :-
คำว่า เวเทหิ ในคำว่า เวเทหิปุตฺโต นี้ เป็นชื่อของบัณฑิต อธิบาย
ว่า บุตรของสตรีผู้เป็นบัณฑิต. บทว่า จตุรงฺคินึ ได้แก่ประกอบด้วยองค์ 4
กล่าวคือ ทัพช้าง ทัพม้า ทัพรถ ทัพพลเดินเท่า [ราบ]. บทว่า สนฺนยฺหิตฺวา
ได้แก่ให้กระทำเกราะด้วยการสวมหนึ่งเป็นต้น. บทว่า สงฺคาเมสุํ แปลว่า
รบกัน. รบกันเพราะเหตุอะไร. ได้ยินว่า พระเจ้ามหาโกศล [พระชนกของพระเจ้า
ปเสนทิโกศล] เมื่อยกพระธิดาถวายพระเจ้าพิมพิสาร ได้พระราชทานกาสิคาม
[หมู่บ้านกาสี] ซึ่งมีรายได้เกิดขึ้นวันละแสน ในระหว่างพระราชาทั้งสองแก่
พระราชธิดา. แต่เมื่อพระเจ้าอชาตศัตรูปลงพระชนม์พระชนกแล้ว แม้พระ-
ชนนีของพระองค์ก็ทิวงคต ต่อมาไม่นาน เพราะทรงเศร้าเหตุวิโยคพลัดพราก
พระราชา. ต่อนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงพระดำริว่า เจ้าอชาตศัตรู ทำ
พระชนกชนนีให้ทิวงคตแล้ว หมู่บ้านซึ่งเป็นสมบัติของพระชนกเรา ก็ต้อง
กลับเป็นของเราสิ แล้วทรงก่อคดีความเมือง เพื่อต้องการหมู่บ้านนั้น. แม้
พระเจ้าอชาตศัตรูก็ทรงเถียงว่า หมู่บ้าน เป็นสมบัติของพระชนนีเรา ก็ต้อง
เป็นของเราสิ. ดังนั้น สองลุงและหลานจึงรบกัน เพื่อต้องการหมู่บ้านนั้น.
พระเจ้าอชาตศัตรูนั้นมีมิตรเช่น พระเทวทัตเป็นต้นชั่ว เพราะเหตุนั้น
จึงทรงชื่อว่า มีมิตรชั่ว. ทรงมีคนชั่วเหล่านั้นเป็นสหาย เพราะเหตุนั้น จึง
ชื่อว่า ทรงมีพระสหายชั่ว. ทรงมีพระทัยน้อมคล้อยไปตามชนเหล่านั้นนั่นแล
เพราะเหตุนั้น จึงทรงชื่อว่า มีผู้คล้อยตามชั่ว. พึงทราบว่า พระเจ้าปเสนทิโกศล