เมนู

3. โทณปากสูตร



คาถากันบริโภคอาหารมาก



[364] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่. . . กรุงสาวัตถี.
สมัยนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลเสวยพระสุธาหารหุงด้วยข้าวสารหนึ่ง-
ทะนาน เสวยแล้วทรงอึดอัด เสด็จเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถวายบังคม
พระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.
[365] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบว่า พระเจ้าปเสนทิ-
โกศลนั้นเสวยแล้วทรงอึดอัด จึงได้ตรัสพระคาถานี้ในเวลานั้นว่า
มนุษย์ผู้มีสติอยู่ทุกเมื่อ รู้จักประมาณ
ในโภชนะที่ได้มา ย่อมมีเวทนาเบาบาง
เขาย่อมแก่ช้า อายุยืน.

[366] สมัยนั้น มหาดเล็กหนุ่มชื่อสุทัศนะ ยืนอยู่เบื้องพระ-
ปฤษฎางค์พระเจ้าปเสนทิโกศล.
ลำดับนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลจึงตรัสเรียกสุทัศนมาณพมารับสั่งว่ามานี้
สุทัศนะ เจ้าจงเรียนคาถานี้ในสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วจงกล่าวในเวลา
เราบริโภคอาหาร อนึ่ง เราจะให้ค่าอาหารแก่เจ้าวันละ 100 กหาปณะทุกวัน.
สุทัศนมาณพรับสนองพระดำรัสพระเจ้าปเสนทิโกศลว่า เป็นพระมหา
กรุณาอย่างยิ่ง พระเจ้าข้า ดังนี้ แล้วเรียนคาถานี้ในสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้า
แล้วกล่าวในเวลาที่พระเจ้าปเสนทิโกศล เสวยพระกระยาหารว่า

มนุษย์ผู้มีสติอยู่ทุกเมื่อ รู้จักประ-
มาณในโภชนะที่ได้มา ย่อมมีเวทนาเบา
บาง เขาย่อมแก่ช้า อายุยืน.

[367] ครั้งนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงดำรงอยู่โดยมีพระกระ-
ยาหารหนึ่งทะนานข้างสุกเป็นอย่างมากเป็นลำดับมา.
ในลำดับต่อมา พระเจ้าปเสนทิโกศลมีพระวรกายกระปรี้กระเปร่าดี
ทรงลูบพระวรกายด้วยฝ่าพระหัตถ์ ทรงเปล่งพระอุทานนี้ในเวลานั้นว่า พระผู้
มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ทรงอนุเคราะห์เราด้วยประโยชน์ทั้ง 2 คือประโยชน์
ปัจจุบันและประโยชน์ภายหน้าหนอ.

อรรถกถาโทณปากสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในโทษปากสูตรที่ 3 ต่อไป :-
บทว่า โทณปากสุทํ ได้แก่ พระกระยาหาร คือข้าวสุกแห่งข้าว
สารทะนานหนึ่ง. อธิบายว่า พระเจ้าปเสนทิโกศลเสวยข้าวสุกแห่งข้าวสาร
ทะนานหนึ่ง และแกงกับที่เหมาะแก่ข้าวสุกนั้น. บทว่า ภุตฺตาวี ความว่า
ทรงบรรเทาความเมาในพระกระยาหารก่อนแล้วพักผ่อนครู่หนึ่งแล้วจึงเสด็จไป
เฝ้าพระพุทธองค์ แต่วันนั้น ท้าวเธอกำลังเสวย ระลึกถึงพระทศพล ก็ล้าง
พระหัตถ์แล้วเสด็จไป. บทว่า มหสฺสาสี ความว่า ท้าวเธอกำลังเสด็จไปก็
เกิดความกระวนกระวายเพราะพระกระยาหาร อย่างรุนแรง เพราะฉะนั้น จึง
ทรงหายใจ ด้วยพระอัสสาสะอย่างแรง หยาดพระเสโทก็ไกลออกจากพระวรกาย
ของพระองค์ พวกราชบุรุษต้องยืนประคองทั้งสองข้าง พัดวีพระองค์ด้วยขั้วใบ