เมนู

8. กามสูตร



[213] เทวดาทูลถามว่า
กุลบุตรผู้ใคร่ประโยชน์ไม่ควรให้สิ่ง
อะไร คนไม่ควรสละอะไร อะไรหนอที่
เป็นส่วนดีงามควรปล่อย แต่ที่เป็นส่วน
ลามกไม่ควรปล่อย.

[214] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า
บุรุษไม่พึงให้ซึ่งตน ไม่พึงสละซึ่ง-
ตน วาจาที่ดีควรปล่อย แต่วาจาที่ลามก
ไม่ควรปล่อย.


อรรถกถากามสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในกามสูตรที่ 8 ต่อไป :-
บทว่า ไม่พึงให้ซึ่งตน นี้ ท่านอธิบายว่า ยกเว้นพระโพธิสัตว์
ทั้งหลายแล้ว บุคคลไม่พึงให้ซึ่งตนโดยการทำตนให้เป็นทาสของผู้อื่น. บทว่า
น ปริจฺจเช อธิบายว่า ยกเว้นพระโพธิสัตว์ทั้งหลายนั่นแหละ บุคคลไม่พึง
สละซึ่งตนให้แก่สัตว์ทั้งหลายมีสีหะและพยัคฆ์ร้ายเป็นต้น. บทว่า กลฺยาณิ
ได้แก่ วาจาสุภาพอ่อนโยน. บทว่า ปาปิกํ คือ วาจาหยาบคาย.
จบอรรถกถากามาสูตรที่ 8

9. ปาเถยยสูตร



[215] เทวดาทูลถามว่า
อะไรหนอย่อมรวบรวมไว้ซึ่งสะเบียง
อะไรหนอ เป็นที่มานอนแห่งโภคทรัพย์
ทั้งหลาย อะไรหนอ ย่อมเสือกไสนรชน
ไป อะไรหนอ ละได้ยากในโลก สัตว์เป็น
อันมากติดอยู่ในอะไร เหมือนนกติดบ่วง.

[216] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า
ศรัทธาย่อมรวบรวมไว้ซึ่งสะเบียงสิริ
(คือมิ่งขวัญ) เป็นที่มานอนแห่งโภคทรัพย์
ทั้งหลาย ความอยากย่อมเสือกไสนรชนไป
ความอยากละได้ยากในโลก สัตว์เป็น
อันมากคิดอยู่ในความอยาก เหมือนนก
ติดบ่วง.