เมนู

อรรถกถภีตสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในภีตสูตรที่ 5 ต่อไป :-
บทว่า กึสูธ ภีตา แก้เป็น กึ ภีตา แปลว่า กลัวอะไร. บทว่า
มคฺโค วเนกายตนํ ปวุตฺโต แปลว่า มรรคเท่านั้น พระพุทธเจ้าตรัสไว้
ด้วยเหตุมิใช่น้อย อธิบายว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสไว้ด้วยเหตุเป็นเครื่อง
กระทำมิใช่น้อย ด้วยสามารถแห่งอารมณ์ 38 ครั้นเมื่อเป็นเช่นนั้น เทวดาจึง
กล่าวว่า ประชุมชนนี้ยึดถือทิฐิ 62 กลัวแล้วต่ออะไร ดังนี้. บทว่า ภูริปญฺญา
แปลว่า มีปัญญาดุจแผ่นดิน ชื่อว่า มีปัญญามาก มีปัญญาหนาแน่น. บทว่า
ปรโลกํ น ภาเย แปลว่า ไม่พึงกลัวปรโลก คือว่า เมื่อไปสู่ปรโลก จาก
โลกนี้ ไม่พึงกลัว. บทว่า ปณิธาย แปลว่า ตั้งไว้แล้ว. บทว่า ฆรมาวสนฺโต
แปลว่า อยู่ครอบครองเรือน อธิบายว่า บุคคลผู้อยู่ครอบครองเรือนที่มีข้าว
และน้ำมาก ดุจชนทั้งหลาย มีอนาถบิณฑิกเศรษฐีเป็นต้น. บทว่า สํวิภาคี
แปลว่า มีปกติเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ อธิบายว่า เป็นผู้ยังวัตถุแม้อันตนถือเอาเพียง
นิ้วมือ ก็ยังแบ่งด้วยเล็บให้แก่คนอื่นแล้วจึงบริโภค. บทว่า วทญฺญู มีเนื้อ
ความได้กล่าวไว้แล้ว.
บัดนี้ พึงยกองค์ (ส่วนประกอบ) แห่งคาถาขึ้นแสดงต่อไป. จริง
อยู่ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสวาจาสุจริต 4 อย่าง ที่บุคคลศึกษาแล้ว ด้วยคำ
ว่า วาจา นี้ และตรัสมโนสุจริต 3 ด้วยคำว่า ใจ. ตรัสกายสุจริต 3 อย่าง
ด้วยคำว่า ด้วยกาย. กุศลกรรมบถ 10 เหล่านี้ ชื่อว่าเป็นองค์ ที่บริสุทธิ์ใน
เบื้องต้น ด้วยประการฉะนี้. ด้วยบทว่า อยู่ครอบครองเรือนที่มีข้าวและน้ำมาก

นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงถือเอาสิ่งที่นำมาเป็นเครื่องบูชาอันสำเร็จแล้วด้วย
การให้. บทว่า ศรัทธา เป็นองค์อันหนึ่ง. บทว่า ผู้อ่อนโยน เป็นองค์
อันหนึ่ง. บทว่า เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เป็นองค์อันหนึ่ง. บทว่า วทญฺญู (ผู้
ทราบถ้อยคำ) เป็นองค์อันหนึ่ง. เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า
ผู้ตั้งอยู่ในธรรม 4 เหล่านี้ หมายเอาองค์ 4 เหล่านี้.
อีกปริยายหนึ่ง บทว่า วาจา เป็นต้น เป็นองค์ 3. อนึ่ง ด้วย
บทว่า มีข้าวและน้ำมาก นี้ทรงถือเอาสิ่งที่เขานำมาเป็นเครื่องบูชา. เป็นผู้มี
ศรัทธาเป็นผู้อ่อนโยน มีปกติเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ทราบถ้อยคำ ทั้ง 4 นี้ เป็นองค์
อันหนึ่ง. ชื่อว่านัยที่สองอีกปริยายหนึ่ง คือ บทว่า วาจา หรือว่า ใจ นี้
เป็นองค์หนึ่ง. บทว่า มิได้ทำบาปด้วยกาย อยู่ครอบครองเรือนที่มีข้าว
และน้ำมาก
นี้เป็นองค์อันหนึ่ง. บทว่า มีศรัทธา มีความอ่อนโยน เป็น
องค์อันหนึ่ง. บทว่า มีปกติ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ทราบถ้อยคำ นี้เป็นองค์
อันหนึ่ง. ผู้ที่ตั้งอยู่ในธรรม 4 อย่างเหล่านี้ ชื่อว่า ผู้ดำรงอยู่ในธรรม. ก็
บุคคลนั้น เมื่อไปสู่ปรโลกจึงไม่กลัว ดังนี้.
จบอรรถกถาภีตสูตรที่ 5

6. นชีรติสูตร



[209] เทวดาทูลถามว่า
อะไรหนอย่อมทรุดโทรม อะไรไม่
ทรุดโทรม อะไรหนอท่านเรียกว่าทางผิด
อะไรหนอเป็นอันตรายแห่งธรรม อะไร
หนอสิ้นไปตามคืนและวัน อะไรหนอเป็น
มลทินของพรหมจรรย์ อะไรไม่ใช่น้ำแต่
เป็นเครื่องชำระล้าง ในโลกมีช่องกี่ช่องที่จิต
ไม่ตั้งอยู่ได้ข้าพระองค์มาเพื่อทูลถามพระ
ผู้มีพระภาคเจ้า ไฉนข้าพระองค์จะรู้ความ
อันนั้นได้.

[210] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า
รูปของสัตว์ทั้งหลายย่อมทรุดโทรม
นามและโคตรย่อมไม่ทรุดโทรม ราคะท่าน
เรียกว่าทางผิด ความโลภเป็นอันตรายของ
ธรรม วัยสิ้นไปตามคืนและวัน หญิงเป็น
มลทินของพรหมจรรย์ หมู่สัตว์นี้ย่อมข้อง
อยู่ในหญิงนี้ ตบะและพรหมจรรย์ทั้งสอง
นั้น มิใช่นำแต่เป็นเครื่องชำระล้าง ใน
โลกมีช่องอยู่ 6 ช่องที่จิตไม่ตั้งอยู่ได้ คือ
ความเกียจคร้าน 1 ความประมาณ 1 ความ
ไม่หมั่น 1 ความไม่สำรวม 1 ความมักหลับ 1.