เมนู

2. อชรสาสูตร



[160] เทวดาทูลถามว่า
อะไรหนอ เพราะไม่ชำรุดจึงยัง
ประโยชน์ให้สำเร็จ อะไรหนอ ดำรงมั่น
แล้ว ยังประโยชน์ให้สำเร็จ อะไรหนอ
เป็นรัตนะของชนทั้งหลาย อะไรหนอ
บุคคลพึงนำให้พ้นจากพวกโจรได้.

[161] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า
ศีล เพราะไม่ชำรุดจึงยังประโยชน์
ให้สำเร็จ ศรัทธา ดำรงมั่นแล้ว ยัง
ประโยชน์ให้สำเร็จ ปัญญา เป็นรัตนะของ
คนทั้งหลาย บุญ อันบุคคลพึงนำไปให้
พ้นจากพวกโจรได้.


อรรถกถาอชราสาสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในอชรสาสูตรที่ 2 ต่อไป :-
บทว่า อชรสา แปลว่า เพราะไม่ชำรุด คือไม่วิบัติ. เพราะว่าศีล
อันไม่วิบัตินั่นแหละ ย่อมยังประโยชน์ให้สำเร็จ. ชนทั้งหลายแม้จะเป็นอาจารย์
และอุปัชฌาย์เป็นต้น ย่อมไม่สงเคราะห์บุคคลผู้มีศีลวิบัติแล้ว ดังนั้น บุคคล
พึงฝึกตนในที่ ๆ ตนไปแล้ว ๆ นั่นแหละ ดังนี้แล.
จบอรรถกถาอชราสูตรที่ 2

3. มิตตสูตร



[162] เทวดาทูลถามว่า
อะไรหนอเป็นมิตรของคนเดินทาง
อะไรหนอเป็นมิตรในเรือนของตน อะไร
เป็นมิตรของคนมีธุระเกิดขึ้น อะไรเป็น
มิตรติดตามไปถึงภพหน้า.

[163] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า
พวกเกวียน พวกโคต่างเป็นมิตร
ของคนเดินทาง มารดาเป็นมิตรในเรือน
ของตน สหายเป็นมิตรของคนผู้มีธุระเกิด
ขึ้นเนืองๆ บุญที่ตนทำเองเป็นมิตรติดตาม
ไปถึงภพหน้า.


อรรถกถามิตตสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในมิตตสูตรที่ 3 ต่อไป :-
บทว่า สตฺโถ ได้แก่ คนเดินทางร่วมกัน หรือเดินทางด้วยลำแข้ง
หรือว่าคนเดินทางด้วยเกวียน. บทว่า มิตฺตํ ได้แก่ เมื่อโรคเกิดขึ้นแล้ว
บุคคลชื่อว่า เป็นมิตร เพราะนำไปด้วยวอ หรือว่าด้วยยานอื่นให้ถึงที่ด้วย
ความปลอดภัย. บทว่า ในเรือนของตน ความว่า เมื่อโรคเห็นปานนั้น