เมนู

อนันตริยกรรม ย่อมมีแก่คนนั้น. สำหรับพวกอธรรมวาทีผู้คล้อยตาม ย่อม
มีโทษมาก ผู้เป็นธรรมวาทีไม่มีโทษ.
ในการทำลายหมู่ของภิกษุทั้ง 9 รูปนั้น (สงฆ์ 9 รูป) นั้น (ปรากฏ)
พระสูตรเป็นหลักฐานดังนี้ ว่า ดูก่อนอุบาลี ฝ่ายหนึ่งมีภิกษุ 4 รูป อีกฝ่าย
หนึ่งมี 8 รูป รูปที่ 9 สวดประกาศให้จับสลากว่า นี้ธรรม นี้วินัย นี้สัตถุ
ศาสน์ พวกท่านจงถือเอาสิ่งนี้ จงชอบใจสิ่งนี้ ดูก่อนอุบาลี ความร้าวราน
แห่งสงฆ์ ความแตกแห่งสงฆ์ ย่อมมีอย่างนี้แล. ดูก่อนอุบาลี ความร้าวราน
แห่งสงฆ์ ความแตกแห่งสงฆ์ ย่อมมีแก่ภิกษุจำนวน 9 รูปหรือเกินกว่า 9 รูป
ได้ดังนี้.
ก็บรรดาอนันตริยกรรมทั้ง 5 ประการเหล่านั้น สังฆเภทเป็นวจีกรรม
ที่เหลือเป็นกายกรรม พึงทราบวินิจฉัยโดยกรรม ด้วยประการดังนี้แล.

วินิจฉัยโดยทวาร



บทว่า ทฺวารโต ความว่า ก็กรรมเหล่านี้ทั้งหมดนั่นแหละ ย่อมตั้ง
ขึ้นทางกายทวารบ้าง วจีทวารบ้าง ก็ในเรื่องนี้ กรรม 4 ประการ เบื้องต้น
ถึงจะตั้งขึ้นทางวจีทวารด้วยอาณัตติกประโยค (การสั่งบังคับ) ก็ให้เกิดผลทาง
กายทวารได้เหมือนกัน สังฆเภทแม้จะตั้งขึ้นทางกายทวารของภิกษุ ผู้ทำการ
ทำลายด้วยใช้หัวแม่มือ ให้เกิดผลทางวจีทวารได้เหมือนกัน ในเรื่องที่ว่าด้วย
สังฆเภทนี้พึงทราบวินิจฉัยแม้โดยทวาร ด้วยประการดังนี้.

วินิจฉัยโดยตั้งอยู่ชั่วกัป



บทว่า กปฺปฏฺฐิติยโต ความว่า ก็ในอธิการนี้ สังฆเภทเท่านั้นที่ตั้ง
อยู่ชั่วกัป. ด้วยว่าบุคคลทำสังฆเภทในคราวกัปเสื่อมหรือตอนกลางของกัป ใน
เมื่อกัปพินาศไป ย่อมพ้น (จากกรรมได้) ก็แม้ถ้าว่า พรุ่งนี้กัปเสื่อมพินาศ