เมนู

อสัปปุริสธรรม


[186] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ประการอื่นยังมีอีก (คือ) อสัตบุรุษ
เป็นผู้อยู่ป่าเป็นวัตร. เธอพิจารณาเห็นดังนี้ว่า เราเป็นผู้อยู่ป่าเป็นวัตรแล
แต่ภิกษุอื่น ๆ เหล่านี้ ไม่เป็นผู้อยู่ป่าเป็นวัตระ เธอยกตน ข่มผู้อื่น เพราะ
เหตุที่เป็นผู้อยู่ป่าเป็นวัตรนั้น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้แลคือ อสัปปุริสธรรม.

สัปปุริสธรรม


ส่วนสัตบุรุษแล พิจารณาเห็นอย่างนี้ว่า ธรรมคือโลภะ ธรรม
คือโทสะ ธรรมคือโมหะ ไม่ถึงความสิ้นไป เพราะเหตุที่เป็นผู้อยู่ป่าเป็น
วัตรเลย. ถึงแม้ภิกษุนั้น จะไม่เป็นผู้อยู่ป่าเป็นวัตร แต่เธอก็เป็นผู้ปฏิบัติ
ธรรมสมควรแก่ธรรม ปฏิบัติชอบ ประพฤติตามธรรม เป็นผู้ที่คนทั้งหลาย
ควรบูชา ควรสรรเสริญในที่นั้น ๆ. เธอทำข้อปฏิบัติให้เป็นไปภายใน (เป็น
การส่วนตัว) เท่านั้น ไม่ยกตน ไม่ข่มผู้อื่น เพราะเหตุที่เป็นผู้อยู่ป่าเป็น
วัตรนั้น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้แลคือ สัปปุริสธรรม.

อสัปปุริสธรรม


[183] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ประการอื่นยังมีอยู่อีก (คือ) อสัตบุรุษ
เป็นผู้ถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตร. เธอพิจารณาเห็นอย่างนี้ว่า เราแลเป็นผู้ถือผ้า
บังสุกุลเป็นวัตร แต่ภิกษุอื่นๆ เหล่านั้น หาเป็นผู้ถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตรไม่
เธอยกตน ข่มผู้อื่น เพราะเหตุที่เป็นผู้ถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตรนั้น ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย นี้แลคือ สัปปุริสธรรม.

สัปปุริสธรรม


ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ส่วนสัตบุรุษแล พิจารณาเห็นอย่างนี้ว่า ธรรม
คือโลภะ ธรรมคือโทสะ หรือธรรมคือโมหะ ไม่ถึงความเสื่อมสิ้นไปเลย