เมนู

ไม่ถูกตัณหาทิฏฐิ อาศัย ไม่ติดใจในธรรมเหล่านั้น หลุดพ้นแล้ว พราก
ไปได้แล้ว มีใจที่ถูกทำให้ปราศจากเขตแดนแล้วอยู่. เธอรู้ชัดว่าคุณพิเศษเป็น
เหตุสลัดออกไป (จากภพ) ยิ่งขึ้นไปอีก ยังมีอยู่. และเธอยังมีความเห็นต่อไป
ว่า ธรรมเป็นเครื่องสลัดออก ยังมีอยู่ เพราะกระทำความรู้นั้นให้มากขึ้น.

พระสารีบุตรเป็นผู้ชำนาญ



[164 ] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้กล่าวชอบ พึงกล่าวชมภิกษุรูปใดว่า
เป็นผู้ถึงความชำนาญ ถึงบารมี (คุณธรรมให้ถึงความสำเร็จ) ในอริยศีล
ในอริยสมาธิ ในอริยปัญญา ในอริยวิมุตติ ภิกษุรูปนั้น คือสารีบุตร
นั่นเอง ที่ผู้กล่าวชอบ พึงกล่าวชม ว่าเป็นผู้ถึงความชำนาญ ถึงบารมี ใน
อริยศีล ในอริยสมาธิ ในอริยปัญญา ในอริยวิมุตติ.

พระสารีบุตรเป็นพระชิโนรส



[165า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้กล่าวชอบ พึงกล่าวชมภิกษุรูปใดว่า
เป็นพุทธชิโนรส เกิดจากพระโอฐของพระผู้มีพระภาคเจ้า เกิดแต่ธรรม
เป็นผู้อันธรรมเนรมิตขึ้น เป็นธรรมทายาท ไม่ใช่อามิสทายาท ภิกษุรูป
นั้น ก็คือสารีบุตรนั่นเอง ที่ผู้กล่าวโดยชอบ พึงกล่าวชมว่าเป็นพุทธชิโนรส
เกิดจากพระโอฐของ พระผู้มีพระภาคเจ้า เกิดแต่ธรรม เป็นผู้อันธรรม-
เนรมิตขึ้น เป็นธรรมทายาท ไม่ใช่อามิสทายาท. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
สารีบุตร ประกาศธรรมจักร อันไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า ที่ตถาคตให้เป็นไปแล้ว
ไปตามลำดับโดยชอบทีเดียว.
พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสพระพุทธภาษิตนี้แล้ว ภิกษุเหล่านั้น
ต่างชื่นชมยินดีพระภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้า ดังนี้แล.
จบ อนุปทสูตรที่ 1


อรรถกถาอนุปทสูตร



อนุปทสูตรมีคำเริ่มต้นว่า ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้.

ในอนุปทสูตรนั้น มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า เอตทโวจ ความว่า ได้ตรัสถ้อยคำสรรเสริญคุณของพระ
ธรรมเสนาบดีสารีบุตรโดยนัยว่า เป็นบัณฑิต เป็นต้นนี้.
ตรัสเพราะเหตุไร ?
เพราะ บรรดาพระเถระที่เหลือทั้งหลาย พระมหาโมคคัลลานะปรากฏ
คุณความดีว่า มีฤทธิ์, พระมหากัสสปะ ปรากฏคุณความดีว่า ธุตวาทะ (ผู้กล่าว
ธุดงค์) พระอนุรุทธเถระ ปรากฏคุณความดีว่ามีทิพยจักษุ พระอุบาลีเถระ
ปรากฏคุณความดีว่าเป็นวินัยธร. พระเรวตเถระ ปรากฏคุณความดีว่า เป็นผู้
ยินดีในฌาน พระอานันทเถระ ปรากฏคุณความดีว่าเป็นพหูสูต, พระเถระ
ทั้งหลายนั้นๆ ปรากฏคุณงามความดีนั้น ๆ อย่างนี้ ดังพรรณนามานี้. แต่ว่า
คุณความดีของพระสารีบุตรเถระยังไม่ปรากฏ.
เพราะเหตุไร ?
เพราะคุณความดีทั้งหลายของพระเถระผู้มีปัญญา ใครไม่อาจรู้ เพราะ
ไม่ได้กล่าวไว้. เพราะเหตุดังกล่าวมานี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระดำริว่า
เราจักบอกคุณความดีทั้งหลายของพระสารีบุตร จึงทรงรอให้บริษัทที่เป็นสภาค
กันประชุม. การกล่าวคุณในสำนักของบุคคลผู้เป็นวิสภาคกัน ย่อมไม่ควรแล.
คนที่เป็นวิสภาคกันเมื่อใครๆ กล่าวสรรเสริญ (เขา) ก็จะกล่าวตำหนิอย่าง
เดียว. ก็ในวันนั้น บริษัทที่เป็นสภาคกันกับพระเถระประชุมกัน. ครั้นทรง