เมนู

อย่างนี้. เธอไม่ยินดี. ไม่ยินร้าย ไม่ถูก ตัณหาทิฏฐิ อาศัย ไม่ติดใจใน
ธรรมเหล่านั้น หลุดพ้นแล้ว พรากไปได้แล้ว มีใจที่ถูกทำให้ปราศจากเขต
แดนแล้วอยู่. เธอรู้ชัดว่า คุณพิเศษเป็นเหตุสลัดออกไป (จากภพ) ยิ่งขึ้น
ไปอีก ยังมีอยู่. และเธอยังมีความเห็นต่อไปว่า ธรรมเป็นเครื่องสลัดออก
ยังมีอยู่. เพราะกระทำความรู้นั้นให้มากขึ้น.

ธรรมในเนวสญัญานาสัญญายตนฌาน



[162] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ประการอื่นยังมีอยู่อีก (คือ) สารีบุตร
ล่วงเลย อากิญจัญญายตนฌาน โดยประการทั้งปวงแล้ว เข้าเนวสัญญา
นาสัญญายตนฌาน
อยู่. เธอเป็นผู้มีสติ ออกจากสมาบัตินั้น. ครั้นแล้ว
เธอพิจารณาเห็นธรรม ที่เป็นอดีตดับไปแล้ว เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ว่า นัยว่า
ธรรมที่ยังไม่มีแก่เรา ย่อมมี ที่มีแล้ว ย่อมเสื่อมไป อย่างนี้. เธอไม่ยินดี
ไม่ยินร้าย ไม่ถูกตัณหาทิฏฐิอาศัย ไม่ติดใจในธรรมเหล่านั้น หลุดพ้น
แล้วพรากไปได้แล้ว มีใจที่ถูกทำให้ปราศจากเขตแดนแล้วอยู่. เธอรู้ชัดว่า
คุณพิเศษเป็นเหตุสลัดออกไป (จากภพ) ยิ่งขึ้นไปอีก ยังมีอยู่ (และ) เธอ
ยังมีความเห็นต่อไปว่าธรรมเครื่องสลัดออกยังมีอยู่ เพราะกระทำความรู้นั้นให้
มากขึ้น.
[163] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ประการอื่นยังมีอยู่อีก (คือ) สารีบุตร
ล่วงเลย เนวสัญญานาสัญญายตนฌาน ไปโดยประการทั้งปวงแล้ว เข้า
สัญญาเวทยิตนิโรธ อยู่. อาสวะทั้งหลายของเธอ เป็นอันสิ้นไปแล้ว เพราะ
เห็นแม้ด้วยปัญญา. เธอมีสติ ออกจากสมาบัตินั้น. ครั้นแล้ว ย่อมพิจารณา
เห็นธรรมที่เป็นอดีต ที่ดับไปแล้ว ที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ว่า นัยว่า ธรรม
ที่ยังไม่มีแก่เรา ย่อมมี ที่มีแล้ว ย่อมเสื่อมไปอย่างนี้. เธอไม่ยินดี ไม่ยินร้าย

ไม่ถูกตัณหาทิฏฐิ อาศัย ไม่ติดใจในธรรมเหล่านั้น หลุดพ้นแล้ว พราก
ไปได้แล้ว มีใจที่ถูกทำให้ปราศจากเขตแดนแล้วอยู่. เธอรู้ชัดว่าคุณพิเศษเป็น
เหตุสลัดออกไป (จากภพ) ยิ่งขึ้นไปอีก ยังมีอยู่. และเธอยังมีความเห็นต่อไป
ว่า ธรรมเป็นเครื่องสลัดออก ยังมีอยู่ เพราะกระทำความรู้นั้นให้มากขึ้น.

พระสารีบุตรเป็นผู้ชำนาญ



[164 ] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้กล่าวชอบ พึงกล่าวชมภิกษุรูปใดว่า
เป็นผู้ถึงความชำนาญ ถึงบารมี (คุณธรรมให้ถึงความสำเร็จ) ในอริยศีล
ในอริยสมาธิ ในอริยปัญญา ในอริยวิมุตติ ภิกษุรูปนั้น คือสารีบุตร
นั่นเอง ที่ผู้กล่าวชอบ พึงกล่าวชม ว่าเป็นผู้ถึงความชำนาญ ถึงบารมี ใน
อริยศีล ในอริยสมาธิ ในอริยปัญญา ในอริยวิมุตติ.

พระสารีบุตรเป็นพระชิโนรส



[165า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้กล่าวชอบ พึงกล่าวชมภิกษุรูปใดว่า
เป็นพุทธชิโนรส เกิดจากพระโอฐของพระผู้มีพระภาคเจ้า เกิดแต่ธรรม
เป็นผู้อันธรรมเนรมิตขึ้น เป็นธรรมทายาท ไม่ใช่อามิสทายาท ภิกษุรูป
นั้น ก็คือสารีบุตรนั่นเอง ที่ผู้กล่าวโดยชอบ พึงกล่าวชมว่าเป็นพุทธชิโนรส
เกิดจากพระโอฐของ พระผู้มีพระภาคเจ้า เกิดแต่ธรรม เป็นผู้อันธรรม-
เนรมิตขึ้น เป็นธรรมทายาท ไม่ใช่อามิสทายาท. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
สารีบุตร ประกาศธรรมจักร อันไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า ที่ตถาคตให้เป็นไปแล้ว
ไปตามลำดับโดยชอบทีเดียว.
พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสพระพุทธภาษิตนี้แล้ว ภิกษุเหล่านั้น
ต่างชื่นชมยินดีพระภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้า ดังนี้แล.
จบ อนุปทสูตรที่ 1