เมนู

เหล่านั้นที่สารีบุตรรู้แจ้งแล้ว ทั้งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่และถึงความดับไป เธอรู้
ชัดอย่างนี้ว่า นัยว่า ธรรมที่ยังไม่มีแก่เราย่อมมี ที่มีแล้วก็เสื่อมสิ้นไป อย่าง
นี้. เธอไม่ยินดี ไม่ยินร้าย ไม่ถูก ตัณหาทิฏฐิ อาศัย ไม่ติดใจในธรรม
เหล่านั้น หลุดพ้นแล้ว พรากไปได้แล้ว มีใจที่ถูกทำให้ปราศจากเขตแดน
แล้วอยู่. เธอรู้ชัดว่า คุณพิเศษเป็นเหตุสลัดออกไป (จากภพ) ยิ่งขึ้นไป ยัง
มีอยู่ และเธอยังมีความเห็นต่อไปว่า ธรรมเป็นเครื่องสลัดออกยังมีอยู่ เพราะ
กระทำความรู้นั้นให้มากขึ้น

ธรรมในอากาสานัญจายตนฌาน



[159] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ประการอื่นยังมีอีก สารีบุตรเข้าอากา-
สานัญจายตนฌาน ด้วยมนสิการว่า อากาศไม่มีที่สุด เพราะล่วงเลยรูปสัญญา
ไป โดยประการทั้งปวง เพราะดับปฏิฆสัญญาได้ (และ) เพราะไม่มนสิการ
ถึง นานัตตสัญญา ก็ธรรมทั้งหลายใน อากาสานัญจายตนฌาน คือ
อากาสานัญจายตนสัญญ า เอกัคคตาจิต ผัสสะ เวทนา สัญญา
เจตนา วิญญาณ ฉันทะ อธิโมกข์ วิริยะ สติ อุเบกขา มนสิการ

เป็นอันพระสารีบุตรกำหนดแล้ว ตามลำดับบท ธรรมเหล่านั้นเป็นอันสารีบุตร
รู้แจ้งแล้วทั้งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และถึงความดับไป เธอรู้ชัดอย่างนี้ว่า นัยว่า
ธรรมที่ยังไม่มีแก่เรา ย่อมมี ที่มีแล้วย่อมเสื่อมไปอย่างนี้. เธอไม่ยินดี ไม่
ยินร้าย ไม่ถูก ตัณหาทิฏฐิ อาศัย ไม่ติดใจในธรรมเหล่านั้น หลุดพ้น
แล้วพรากไปได้แล้ว มีใจที่ถูกทำให้ปราศจากเขตแดนแล้วอยู่ เธอรู้ชัดว่า
คุณพิเศษเป็นเหตุสลัดออกไป (จากภพ) ยิ่งขึ้นไปอีก ยังมีอยู่. และเธอยังมี
ความเห็นต่อไปว่า ธรรมเป็นเครื่องสลัดออกไป ยังมีอยู่ เพราะกระทำความ
รู้นั้นให้มากขึ้น.

ธรรมในวิญญาณัญจายตนฌาน



[160] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ประการอื่นยังมีอยู่อีก (คือ) สารีบุตร
ล่วงเลย อากาสานัญจายตนฌาน ไป โดยประการทั้งปวงแล้ว เข้าวิญญา-
ณัญจายตนฌาน
ด้วยมนสิการว่า วิญญาณไม่มีที่สุด อยู่. ก็ธรรมทั้งหลาย
ใน วิญญาณัญจาตนฌาน คือ วิญญาณัญจายตฌาน เอกัคคตาจิต
ผัสสะ เวทนา สัญญา เจตนา วิญญาณ ฉันทะ อธิโมกข์ วิริยะ
สติ อุเบกขา มนสิการ
เป็นอันสารีบุตรกำหนดได้แล้วตามลำดับบท
ธรรมเหล่านั้นที่สารีบุตรรู้แจ้งแล้ว ทั้งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และถึงความดับไป.
เธอรู้ชัดอย่างนี้ว่า นัยว่า ธรรมที่ยังไม่มีแก่เรา ย่อมมี ที่มีแล้วย่อมเสื่อมไป
อย่างนี้. เธอไม่ยินดี ไม่ยินร้าย ไม่ถูก ตัณหาทิฏฐิ อาศัย ไม่คิดใจใน
ธรรมเหล่านั้น หลุดพ้นแล้ว พรากไปได้แล้ว มีใจที่ถูกทำให้ปราศจากเขต
แดนแล้วอยู่. เธอรู้ชัดว่า คุณพิเศษเป็นเหตุสลัดออกไป (จากภพ) ยิ่งขึ้น
ไปอีกยังมีอยู่. และเธอยังมีความเห็นต่อไปว่า ธรรมเป็นเครื่องสลัดออกยัง
มีอยู่ เพราะกระทำความรู้นั้นให้มากขึ้น.

ธรรมในอากิญจัญญายตนฌาน



[161] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ประการอื่นยังมีอยู่อีก (คือ) สารีบุตร
ล่วงเลยวิญญาณัญจายตนฌานไป โดยประการทั้งปวงแล้ว เข้าอากิญจัญญาย-
ตนฌาน ด้วยมนสิการว่า ไม่มีอะไรสักหน่อยหนึ่ง อยู่. ก็ธรรมทั้งหลายใน
อากิญจัญญายตนฌาน คือ อากิญจัญญายตนฌาน เอกัคคตาจิต
ผัสสะ เวทนา สัญญา เจตนา วิญญาณ ฉันทะ อธิโมกข์ วิริยะ
สติ อุเบกขา มนสิการ
เป็นอันสารีบุตรกำหนดได้แล้วตามลำดับบท
ธรรมเหล่านั้นที่สารีบุตรรู้แจ้งแล้ว ทั้งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และถึงความดับไป.
เธอรู้ชัดอย่างนี้ว่า นัยว่า ธรรมที่ยังไม่มีย่อมมีแก่เรา ที่มีแล้วย่อมเสื่อมไป